อาการและวิธีรักษาวัคซีนโรคอีสุกอีใส (Chickenpox)

โรคอีสุกอีใส (Chickenpox)

อีสุกอีใส เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่มักเกิดกับเด็ก อีสุกอีใสเป็นโรคติดต่อที่แพร่กระจายได้ง่ายในผู้ที่ยังไม่เป็นโรคนี้หรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ที่มีการสัมผัสหรือหายใจร่วมกัน

แชร์

โรคอีสุกอีใส คืออะไร?

โรคอีสุกอีใส (Chickenpox) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ (Varicella-Zoster Virus) เป็นโรคที่เกิดการติดเชื้อได้ง่ายสำหรับผู้ที่ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสหรือไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสมาก่อน ในปัจจุบันมีวัคซีนอีสุกอีใสที่ช่วยป้องกันเด็กจากการเป็นอีสุกอีใส ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคกล่าวว่าการฉีดวัคซีนอีสุกอีใสเป็นประจำและตามระยะเวลาที่กำหนดเป็นสิ่งที่จำเป็นในการป้องกันโรคอีสุกอีใส โรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์

ลักษณะอาการโรคอีสุกอีใส

อาการของโรคอีสุกอีใสจะเริ่มจากผื่นคันและจะมีอาการอยู่ประมาณ 10-21 วันหลังจากผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัส หลังจากนั้นจะเกิดผื่นพุพองที่จะแสดงอาการอยู่ประมาณ 5-10 วัน อาการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นก่อนการเกิดผื่น ได้แก่

  • ไข้
  • เบื่ออาหาร
  • ปวดศรีษะ
  • รู้สึกอ่อนล้าและไม่สบายตัว  

อาการโรคอีสุกอีใสสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระยะ

ระยะที่ 1 – มีตุ่มสีชมพูหรือแดง เริ่มก่อตัวบนผิวหนังและเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาหลายวัน
ระยะที่ 2 – ตุ่มน้ำจะเกิดขึ้นภายในหนึ่งวันและเริ่มมีการแตก
ระยะที่ 3 – เกิดสะเก็ดแผลที่จะครอบตุ่มน้ำที่เกิดการแตก สะเก็ดเหล่านี้จะใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะดีขึ้น

ลักษณะอาการโรคอีสุกอีใส 3 ระยะ

หลังจากผู้ป่วยผ่านอาการโรคอีสุกอีใสทั้ง 3 ระยะแล้ว ผู้ป่วยจะพบว่าเกิดตุ่มแดงบนผิวหนังเป็นระยะเวลาหลายวัน และในที่สุดผู้ป่วยจะมีอาการของผื่นชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตุ่มแดง ตุ่มน้ำ และในที่สุดก็จะกลายเป็นสะเก็ดแผล ผู้ป่วยจะเริ่มเข้าสู่ระยะแพร่เชื้อเป็นระยะเวลา 48 ชั่วโมงก่อนเกิดผื่น โดยผู้ป่วยจะยังอยู่ในระยะเวลาแพร่เชื้อจนกว่าจะเกิดสะเก็ดแผลครอบตุ่มน้ำ หลังจากนั้นจึงจะพ้นระยะของการแพร่เชื้อ

โรคอีสุกอีใสจะไม่แสดงอาการที่รุนแรงในเด็กที่มีสุขภาพดี อย่างไรก็ตามในเคสที่มีความรุนแรง ผื่นจะเกิดการลุกลามไปทั่วทั้งร่างกายและจะเกิดรอยโรคขึ้นในช่องคอ รวมถึงที่เยื่อบุผิวบริเวณท่อปัสสาวะ ทวารหนัก และช่องคลอด

 

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์  

ควรทำการนัดพบแพทย์หากคิดว่าคุณหรือบุตรของคุณมีอาการของโรคอีสุกอีใส แพทย์จะตรวจวินิจฉัยด้วยการตรวจหาผื่นที่มีลักษณะคล้ายอีสุกอีใสและจะดูอาการภาพรวมของผู้ป่วย แพทย์อาจจะทำการสั่งยาเพื่อบริหารอาการของอีสุกอีใสรวมถึงภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ดังนั้นควรทำการติดต่อแพทย์และแจ้งทางโรงพยาบาลทันทีหากผู้ป่วยคิดว่าอาจจะมีอาการของอีสุกอีใส เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อไปยังผู้ป่วยท่านอื่น ๆ

นอกจากอาการอีสุกอีใสแล้ว ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์หากพบว่าผื่นมีการลุกลามไปที่ตาข้างใดข้างหนึ่งหรือตาทั้งสองข้าง หากนั่นอาจหมายถึงการติดเชื้อทางผิวหนังจากแบคทีเรียชนิดอื่นๆ หรือหากผื่นมาพร้อมกับอาการอื่นๆ อย่างเช่น วิงเวียน ศีรษะ อัตราการเต้นของหัวใจเร็ว หายใจลำบาก การสั่น สูญเสียความสามารถในการทำงานของกล้ามเนื้อ อาการไอทรุดลง อาเจียน ปวดเมื่อยคอ หรือมีไข้สูงกว่า 38.9 เซลเซียส



สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

สาเหตุของเชื้อโรคอีสุกอีใสเกิดจากไวรัสที่แพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่น ๆ ผ่านการสัมผัสกับผื่นโดยตรง นอกจากนั้นหากผู้ป่วยไอ หรือจามอาจจะทำการกระจายละอองเชื้ออีสุกอีใสไปในอากาศและทำการแพร่เชื้อแก่คนอื่นที่หายใจละอองที่มีเชื้อเข้าไปในร่างกาย

ผู้ป่วยจะมีโอกาสเสี่ยงสูงจากการติดเชื้ออีสุกอีใสหากไม่เคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใส หรือไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนอีสุกอีใสมาก่อน วัคซีนอีสุกอีใสมีความสำคัญมากโดยเฉพาะกับคนที่ทำงานในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือในโรงเรียน

สำหรับคนที่เคยมีประวัติติดเชื้ออีสุกอีใส หรือมีประวัติเคยได้รับการฉีดวัคซีนอีสุกอีใสนั้น ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันในการป้องกันอีสุกอีใส ส่วนในกรณีผู้ป่วยบางรายที่ได้รับการฉีดวัคซีนอีสุกอีใสแล้ว แต่ยังตรวจพบโรคอีสุกอีใสอีกจะพบว่าอาการของโรคจะไม่มีความรุนแรง พบตุ่มน้ำในปริมาณที่น้อยลงและพบไข้ที่ต่ำลง อย่างไรก็ตามการที่จะเกิดโรคอีสุกอีใสเป็นครั้งที่สองในชีวิตนั้นสามารถพบได้น้อยครั้ง

 

ภาวะแทรกซ้อนของโรคอีสุกอีใส

ถึงแม้โรคอีสุกอีใสจะเป็นโรคที่มีอาการไม่รุนแรง แต่ในกรณีที่อาการโรคอีสุกอีใสรุนแรงสามารถส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมากมาย ดังต่อไปนี้

  • ติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ผิวหนัง เนื้อเยื่อ กระดูก ข้อต่อ หรือกระแสเลือด
  • ภาวะร่างกายขาดน้ำ
  • โรคปอดอักเสบ
  • โรคไข้สมองอักเสบ
  • กลุ่มอาการท็อกสิกช็อก
  • โรคเรย์ซินโดรมที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กหรือวัยรุ่นที่รับประทานยาแอสไพรินช่วงที่เป็นโรคอีสุกอีใส
  • เสียชีวิต

กลุ่มเสี่ยงโรคอีสุกอีใสมีใครบ้าง

  • เด็กแรกเกิดและทารกที่มารดาไม่เคยเป็นอีสุกอีใส หรือได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันอีสุกอีใส 
  • วัยรุ่นและผู้ใหญ่
  • สตรีมีครรภ์ที่ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส
  • ผู้ที่สูบบุหรี่
  • ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อย่างเช่นคนที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือมีโรคอื่นๆ อย่างเช่นโรคมะเร็งหรือติดเชื้อเอชไอวี
  • ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ตัวยาสเตียรอยด์ในการรักษาโรคหืด

ผลกระทบโรคอีสุกอีใสต่อการตั้งครรภ์ 

เด็กที่เกิดจากมารดาที่ติดเชื้อโรคอีสุกอีใสช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ระยะแรก เด็กที่คลอดมักจะมีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์และความพิการที่แขนและขา นอกจากนี้เด็กยังจะเกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคอีสุกอีใสที่มีความรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต

หากมารดามีการติดเชื้ออีสุกอีใสในช่วงสัปดาห์ก่อนการคลอดบุตรหรือสัปดาห์หลังจากการคลอดบุตร ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับตัวมารดาและทารกหากผู้ป่วยกำลังตั้งครรภ์ และไม่มีภูมิคุ้มกันโรคอีสุกอีใส

 

โรคงูสวัด โรคต่อเนื่องจากการเป็นอีสุกอีใส

ผู้ป่วยที่เคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใสพบว่ามีความเสี่ยงที่สูงกว่าในการเกิดโรคงูสวัด โรคงูสวัดคือภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ที่ยังคงอยู่ในเซลล์ประสาท ถึงแม้ว่าการติดเชื้อที่ผิวหนังจะหายดีแล้ว ไวรัสสามารถเกิดขึ้นได้อีกและทำให้เกิดโรคงูสวัด

โรคงูสวัดจะมีอาการตุ่มน้ำพุพองที่เกาะกลุ่มและเป็นตุ่มที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้ป่วย ตุ่มน้ำพุพองเหล่านี้มีอายุสั้น แต่อาการปวดอาจจะอยู่ได้นานกว่าถึงแม้ตุ่มจะหายไป ภาวะนี้เรียกว่าอาการปวดเส้นประสาทหลังจากเป็นโรคงูสวัด (postherpetic neuralgia) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่มีความรุนแรงและมักจะเกิดกับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

ในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดสำหรับผู้ใหญ่ที่เคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใส อย่างวัคซีน Shingrix เป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองว่าเหมาะสำหรับผู้ป่วยอายุ 50 หรือมากกว่า ที่เคยได้รับการฉีดวัคซีน Zostavax โดยส่วนมากแพทย์มักจะแนะนำให้ฉีดวัคซีนชนิด Shingrix มากกว่า Zostavax

ป้องกันตนเองอย่างไร 

วิธีการป้องกันอีสุกอีใสที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกันอีสุกอีใส จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคกล่าวว่า การฉีดวัคซีนอีสุกอีใสจะช่วยป้องกันการเกิดโรคอีสุกอีใสและบรรเทาอาการของโรคอีสุกอีใสได้อย่างมีประสิทธิผล

 

วัคซีนอีสุกอีใสเหมาะกับใครบ้าง

  1. เด็กเล็ก

    ช่วงวัยที่ควรได้รับวัคซีนมากที่สุดคือในวัยเด็ก โดยวัคซีนอีสุกอีใสสามารถฉีดร่วมกันกับวัคซีนชนิดอื่น ๆ อย่างเช่นวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน โรคหัดหรือโรคคางทูม อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนรวมอาจมีผลข้างเคียงอย่างเช่น อาการไข้และชัก ในเด็กที่มีอายุระหว่าง 12 ถึง 23 เดือน

  2. เด็กโตที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอีสุกอีใส

    เด็กโตที่มีอายุระหว่าง 7 ถึง 12 ปี ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ควรฉีดวัคซีนอีสุกอีใสจำนวนสองเข็ม โดยแต่ละเข็มควรห่างกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับเด็กโตที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป ควรได้รับการฉีดวัคซีนสองเข็ม โดยแต่ละเข็มควรห่างกันเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์

  3. ผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอีสุกอีใส

    กลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการได้รับเชื้ออีสุกอีใส อย่างเช่นบุคลากรทางการแพทย์ หรือกลุ่มที่ทำงานในโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก ทหาร หรือคนที่เดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำ นอกจากนี้ผู้ใหญ่ที่อยู่กับเด็กเล็กและสตรีที่สามารถตั้งครรภ์ได้ ก็ควรจะได้รับการฉีดวัคซีนอีสุกอีใสด้วยเช่นกัน

  4. ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยมีประวัติป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส

    ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยมีประวัติป่วยหรือมีอาการโรคอีสุกอีใส กลุ่มนี้ควรได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมดสองเข็ม และแต่ละเข็มควรเว้นระยะห่าง 4-8 สัปดาห์ ปรึกษาแพทย์หากผู้ป่วยไม่แน่ใจว่าเคยมีประวัติติดเชื้ออีสุกอีใสหรือเคยได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่ แพทย์จะทำการส่งตรวจเลือดเพื่อดูระบบภุมิคุ้มกันของผู้ป่วย


วัคซีนอีสุกอีใสไม่เหมาะกับใครบ้าง

  • สตรีที่ตั้งครรภ์
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ อย่างเช่นผู้ป่วยเอชไอวี
  • ผู้ที่ต้องทำการรักษาด้วยยากดภูมิคุ่มกัน
  • ผู้ที่แพ้เจลาตินหรือยาปฏิชีวนะในกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ 

ในกลุ่มข้างต้นควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหาว่าผู้ป่วยเคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสหรือไม่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสก่อนวางแผนมีบุตรหรือตั้งครรภ์เสม

วัคซีนอีสุกอีใสเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผลในการป้องกันอีสุกอีใส โดยการฉีดวัคซีนมีผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อยและไม่รุนแรง ดังนี้

  • ผิวแดง 
  • รู้สึกปวด 
  • ตุ่มเล็กๆเกิดขึ้นบริเวณที่ฉีดวัคซีน แต่พบได้ไม่บ่อยนัก

การวินิจฉัย และวิธีรักษาโรคอีสุกอีใส

แพทย์สามารถวินิฉัยโรคอีสุกอีใสด้วยการตรวจร่างกายผู้ป่วยหาผื่นที่มีลักษณะคล้ายผื่นอีสุกอีใส รวมถึงทำการตรวจชนิดอื่น ๆ ดังนี้

  • การตรวจเลือด 
  • การเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหารอยโรค 

โดยทั่วไปโรคอีสุกอีใสไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา โดยเฉพาะกับเด็กที่มีสุขภาพดี อย่างไรก็ตามแพทย์จะทำการสั่งยาแก้แพ้เพื่อช่วยบรรเทาอาการของโรค 

สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแรกซ้อน แพทย์จะทำการสั่งยาเพื่อลดระยะเวลาการติดเชื้อและช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อน  

หากแพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยหรือบุตรที่มีอาการของโรคอีสุกอีใสมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการเกิดภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะทำการสั่งยาต้านไวรัสเพื่อช่วยลดความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนจากอีสุกอีใส ยาจะถูกสั่งให้ผู้ป่วยภายใน 24 ชั่วโมงหลังการเกิดผื่น ยาต้านไวรัสชนิดอื่น ๆ จะช่วยบรรเทาภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่เกิดจากโรค แพทย์จะทำการแนะนำให้ผู้ป่วยทำการฉีดวัคซีนหลังจากสัมผัสกับไวรัส ทั้งนี้เพื่อช่วยป้องกันการเกิดโรคและลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

การรักษาโรคอีสุกอีใสเมื่อมีภาวะแทรกซ้อน

แพทย์จะหาการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วย แพทย์อาจจะทำการสั่งยาปฏิชีวนะสำหรับรักษาอาการติดเชื้อบนผิวหนังรวมถึงอาการปอดติดเชื้อ ยาต้านไวรัสจะช่วยในการรักษาโรคไข้สมองอักเสบ ในบางกรณผู้ป่วยอาจมีความจำเป็นต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

วิธีการดูแลตนเองเพื่อช่วยบรรเทาอาการของโรคอีสุกอีใส

  • หลีกเลี่ยงการเกาแผลเนื่องจากการเกาจะสามารถทำให้เกิดแผลและทำให้แผลหายช้า และจะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ
  • ผู้ป่วยควรทำการนัดพบแพทย์ หากพบว่ามีอาการไข้กินระยะเวลานานเกิน 4 วันและมีไข้ที่สูงกว่า 38.9 เซลเซียส
  • หลีกเลี่ยงการให้ยาแอสไพรินแก่เด็กหรือวัยรุ่นที่มีโรคอีสุกอีใส เนื่องจากอาจเกิดภาวะโรคเรย์ซินโดรม
  • ควรทำการปรึกษาแพทย์ก่อนทำการให้ยาแก้ปวดลดอาการอักเสบกลุ่ม NSAID แก่ผู้ป่วยโรคอีสุกอีใส มีการวิจัยเผยว่ายากลุ่มนี้อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเนื้อเยื่อถูกทำลาย

เตรียมตัวอย่างไรเมื่อมาพบแพทย์  

ผู้ป่วยควรเตรียมตัวดังนี้ 

  • ถามแพทย์ว่ามีข้อปฏิบัติที่ผู้ป่วยหรือบุตรจำเป็นต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดหรือไม่ อย่างเช่นการแยกตัวเองออกจากผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
  • จดอาการทั้งหมดที่ผู้ป่วยและบุตรเป็นอยู่ในปัจจุบันรวมถึงระยะเวลาที่เริ่มเกิดอาการและมีอาการเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่
  • พยายามนึกว่าผู้ป่วยหรือบุตรได้มีการสัมผัสกับผู้ป่วยโรคอีสุกอีใสในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้หรือไม่
  • จดโรคหรือปัญหาทางสุขภาพอื่นๆที่ผู้ป่วยหรือบุตรเป็น รวมถึงรายการยาที่ต้องรับประทานในปัจจุบัน
  • จดคำถามที่ผู้ป่วยประสงค์จะถามแพทย์  


คำถามเบื้องต้นในการตรวจวินิจฉัย

คำถามที่ผู้ป่วยสามารถถามแพทย์ มีดังนี้  

  • สาเหตุที่อาจส่งผลให้เกิดอาการเหล่านี้มีอะไรบ้าง  
  • มีสาเหตุอื่นๆที่อาจส่งผลให้เกิดอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่   
  • มีทางเลือกการรักษาแบบใดบ้าง 
  • อาการเหล่านี้ใช้ระยะเวลานานเท่าใดในการรักษา  
  • อาการเหล่านี้จะเกิดการแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นหรือไม่ และระยะเวลาการแพร่เชื้อจะยาวนานเท่าใด
  • จะสามารถลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อได้อย่างไร

คำถามที่แพทย์จะทำการถามผู้ป่วย มีดังนี้  

  • อาการเริ่มแรกที่ผู้ป่วยสังเกตได้มีอะไรบ้าง  
  • ผู้ป่วยได้มีการติดต่อหรือสัมผัสบุคคลอื่นๆที่มีอาการใกล้เคียงโรคอีสุกอีใสในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่
  • ผู้ป่วยหรือบุตรเคยมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสหรือไม่ และหากมีการฉีด ได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมดกี่เข็ม
  • ผู้ป่วยหรือบุตรได้รับการรักษาภาวะทางการแพทยอื่นๆอยู่ด้วยหรือไม่
  • ในปัจจุบัน ผู้ป่วยหรือบุตรมีการรับประทานยาตามแพทย์สั่ง วิตามิน หรืออาหารเสริมบ้างหรือไม่
  • บุตรของคุณกำลังเรียนหรืออยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือไม่
  • ผู้ป่วยกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรหรือไม่

เผยแพร่เมื่อ: 07 ก.พ. 2021

แชร์

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

  • Link to doctor
    พญ. นัทธมน บวรสถิตชัย

    พญ. นัทธมน บวรสถิตชัย

    • ตจวิทยา (โรคผิวหนัง)
    การรักษาเกี่ยวกับความงาม, รักษาสิว, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, รอยสิว, โรคสะเก็ดเงิน, โรคผิวหนังอักเสบ, โรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันตัวเอง, โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง , ตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนัง, ผ่าตัดบริเวณผิวหนัง, ผ่าตัดมะเร็งผิวหนัง, ผ่าตัดมะเร็งผิวหนังด้วยวิธีโมหส์ Mohs, ฝ้าและโรคของเม็ดสี, การดูแลกระชับเรือนร่าง, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส
    การรักษาเกี่ยวกับความงาม, รักษาสิว, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, รอยสิว, โรคสะเก็ดเงิน, โรคผิวหนังอักเสบ, โรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันตัวเอง, โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง , ตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนัง, ผ่าตัดบริเวณผิวหนัง, ผ่าตัดมะเร็งผิวหนัง, ผ่าตัดมะเร็งผิวหนังด้วยวิธีโมหส์ Mohs, ฝ้าและโรคของเม็ดสี, การดูแลกระชับเรือนร่าง, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    นพ. จักกพัฒน์ วนิชานันท์

    นพ. จักกพัฒน์ วนิชานันท์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, อายุรกรรมทั่วไป
    โรคติดเชื้อทั่วไป, อายุรกรรมทั่วไป
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    พญ. ชัชฎาภรณ์ ชุณหรัศมิ์

    พญ. ชัชฎาภรณ์ ชุณหรัศมิ์

    • ตจวิทยา (โรคผิวหนัง)
    เลเซอร์ผิวหนังด้านความงาม, เลเซอร์กระชับรูปร่าง, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส, ฝ้าและโรคของเม็ดสี, โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง , รักษาสิว, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, รอยสิว, โรคสะเก็ดเงิน, โรคด่างขาว, ตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนัง, ผ่าตัดเล็กบริเวณผิวหนัง
    เลเซอร์ผิวหนังด้านความงาม, เลเซอร์กระชับรูปร่าง, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส, ฝ้าและโรคของเม็ดสี, โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง , รักษาสิว, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, รอยสิว, โรคสะเก็ดเงิน, โรคด่างขาว, ตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนัง, ผ่าตัดเล็กบริเวณผิวหนัง
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    รศ.พญ. สิริอร วัชรานานันท์

    รศ.พญ. สิริอร วัชรานานันท์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคติดเชื้อทั่วไป, การติดเชื้อในเวชบำบัดวิกฤต, โรคติดเชื้อหลังปลูกถ่ายอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก, โรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อราลุกลามหรือไวรัส
    โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคติดเชื้อทั่วไป, การติดเชื้อในเวชบำบัดวิกฤต, โรคติดเชื้อหลังปลูกถ่ายอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก, โรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อราลุกลามหรือไวรัส
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    ผศ.นพ. ถนอมศักดิ์ อเนกธนานนท์

    ผศ.นพ. ถนอมศักดิ์ อเนกธนานนท์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ รวมทั้งโรคแทรกซ้อน, วัคซีน, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, สุขภาพนักเดินทาง การให้วัคซีน และประเมินสุขภาวะก่อนและหลังกลับจากต่างประเทศหรือพื้นที่เสี่ยง, โรคติดเชื้อทางเขตร้อน
    โรคติดเชื้อทั่วไป, การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ รวมทั้งโรคแทรกซ้อน, วัคซีน, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, สุขภาพนักเดินทาง การให้วัคซีน และประเมินสุขภาวะก่อนและหลังกลับจากต่างประเทศหรือพื้นที่เสี่ยง, โรคติดเชื้อทางเขตร้อน
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    รศ.นพ. พอพล โรจนพันธุ์

    รศ.นพ. พอพล โรจนพันธุ์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์ผู้สูงอายุ
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    อายุรกรรมทั่วไป, อายุรกรรมผู้สูงอายุ
    อายุรกรรมทั่วไป, อายุรกรรมผู้สูงอายุ
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    นพ. วิชญ์ แสงสุวรรณ

    นพ. วิชญ์ แสงสุวรรณ

    • ตจวิทยา (โรคผิวหนัง)
    • โรคเส้นผมและการผ่าตัดปลูกถ่ายเส้นผม
    การฉีด Botulinum Toxin, การฉีดฟิลเลอร์, รักษาสิว, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, รอยสิว, โรคสะเก็ดเงิน, โรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันตัวเอง, โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง , โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, ตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนัง, ผ่าตัดบริเวณผิวหนัง, ฝ้าและโรคของเม็ดสี, การดูแลกระชับเรือนร่าง, การรักษาผิวหนังด้านความงาม, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส, โรคผิวหนังอักเสบ, โรคแพ้ภูมิตัวเอง, ผ่าตัดเล็กบริเวณผิวหนัง, เลเซอร์ผิวหนังด้านความงาม, เลเซอร์รักษาผิวหนังหย่อนยาน, เลเซอร์รักษาจุดด่างดำ, เลเซอร์กระชับรูปร่าง, การใช้แสงเลเซอร์รักษาผมบาง, เลเซอร์รักษาหลุมสิว, โรคและความผิดปกติเกี่ยวกับผม, ตจวิทยา โรคผิวหนัง, การผ่าตัดปลูกผม
    การฉีด Botulinum Toxin, การฉีดฟิลเลอร์, รักษาสิว, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, รอยสิว, โรคสะเก็ดเงิน, โรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันตัวเอง, โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง , โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, ตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนัง, ผ่าตัดบริเวณผิวหนัง, ฝ้าและโรคของเม็ดสี, การดูแลกระชับเรือนร่าง, การรักษาผิวหนังด้านความงาม, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส, โรคผิวหนังอักเสบ, โรคแพ้ภูมิตัวเอง, ผ่าตัดเล็กบริเวณผิวหนัง, เลเซอร์ผิวหนังด้านความงาม, เลเซอร์รักษาผิวหนังหย่อนยาน, เลเซอร์รักษาจุดด่างดำ, เลเซอร์กระชับรูปร่าง, การใช้แสง…
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    พญ. ณิชา รังสิมานนท์

    พญ. ณิชา รังสิมานนท์

    • ตจวิทยา (โรคผิวหนัง)
    เลเซอร์ผิวหนังด้านความงาม, การรักษาผิวหนังด้านความงาม, ตรวจรักษาโรคผิวหนังทั่วไป, ตจวิทยา โรคผิวหนัง, โรคเกี่ยวกับผมและเล็บ, ซีสต์ที่ผิวหนัง, ตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนัง, ผ่าตัดมะเร็งผิวหนัง, รอยสิว, รักษาสิว, โรคสะเก็ดเงิน, โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง , ฝ้าและโรคของเม็ดสี, เลเซอร์รักษาจุดด่างดำ, โรคผิวหนังอักเสบ, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส, ผื่นแพ้สัมผัส, General Gyne Examination, โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังชนิดเอคซิม่า, โรคผมร่วงเฉียบพลัน, โรคผมร่วงเรื้อรัง, โรคและความผิดปกติเกี่ยวกับผม, ผมร่วงแบบมีแผลเป็นบนหนังศีรษะ, โรคผมร่วงชนิดทำให้เกิดแผลเป็น, โรคผมบางจากพันธุกรรม, การใช้แสงเลเซอร์รักษาผมบาง, เลเซอร์กระชับรูปร่าง, การดูแลกระชับเรือนร่าง, การฉีด Botulinum Toxin, การฉีดยารักษาเส้นเลือดขอด, การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น, เลเซอร์รักษาหลุมสิว, เลเซอร์รักษาผิวหนังหย่อนยาน, ผ่าตัดเล็กบริเวณผิวหนัง
    เลเซอร์ผิวหนังด้านความงาม, การรักษาผิวหนังด้านความงาม, ตรวจรักษาโรคผิวหนังทั่วไป, ตจวิทยา โรคผิวหนัง, โรคเกี่ยวกับผมและเล็บ, ซีสต์ที่ผิวหนัง, ตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนัง, ผ่าตัดมะเร็งผิวหนัง, รอยสิว, รักษาสิว, โรคสะเก็ดเงิน, โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง , ฝ้าและโรคของเม็ดสี, เลเซอร์รักษาจุดด่างดำ, โรคผิวหนังอักเสบ, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส, ผื่นแพ้สัมผัส, General Gyne Examination, โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังชนิดเอคซิม่า, โรคผมร่วงเฉียบพลัน, โรคผมร่วงเรื้อรัง, โรคและความผิดปกติเกี่ยวกับผม,…
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    ผศ.นพ. มนต์เดช สุขปราณี

    ผศ.นพ. มนต์เดช สุขปราณี

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ รวมทั้งโรคแทรกซ้อน, การจัดการโรคไวรัสตับอักเสบชนิดซีและการปฏิบัติตัว, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, การติดเชื้อในเวชบำบัดวิกฤต
    การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ รวมทั้งโรคแทรกซ้อน, การจัดการโรคไวรัสตับอักเสบชนิดซีและการปฏิบัติตัว, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, การติดเชื้อในเวชบำบัดวิกฤต
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    พญ.  ศิรญา ไชยะกุล

    พญ. ศิรญา ไชยะกุล

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, อายุรกรรมทั่วไป
    โรคติดเชื้อทั่วไป, อายุรกรรมทั่วไป
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    นพ. พีระวงษ์ วีรารักษ์

    นพ. พีระวงษ์ วีรารักษ์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, อายุรกรรมทั่วไป
    โรคติดเชื้อทั่วไป, อายุรกรรมทั่วไป
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    นพ. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ

    นพ. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ

    • ตจวิทยา (โรคผิวหนัง)
    ตจวิทยา โรคผิวหนัง, ภูมิคุ้มกันผิวหนัง, โรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันตัวเอง, โรคแพ้ภูมิตัวเอง, โรคตุ่มน้ำพองใสจากภูมิคุ้มกัน, โรคสะเก็ดเงิน, การฉีด Botulinum Toxin, การฉีดฟิลเลอร์, รักษาสิว, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, โรคผิวหนังอักเสบ, โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง , โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส, โรคด่างขาว
    ตจวิทยา โรคผิวหนัง, ภูมิคุ้มกันผิวหนัง, โรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันตัวเอง, โรคแพ้ภูมิตัวเอง, โรคตุ่มน้ำพองใสจากภูมิคุ้มกัน, โรคสะเก็ดเงิน, การฉีด Botulinum Toxin, การฉีดฟิลเลอร์, รักษาสิว, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, โรคผิวหนังอักเสบ, โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง , โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส, โรคด่างขาว
       
       
       
       
       
       
       
  • Link to doctor
    รศ.พญ. มาเรีย นิน่า จิตะสมบัติ

    รศ.พญ. มาเรีย นิน่า จิตะสมบัติ

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
    โรคติดเชื้อทั่วไป, การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ รวมทั้งโรคแทรกซ้อน, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคติดเชื้อทางเขตร้อน, โรคติดเชื้อแทรกซ้อนหลังปลูกถ่ายอวัยวะ, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยโรคมะเร็ง/ มะเร็งโรคเลือด
    โรคติดเชื้อทั่วไป, การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ รวมทั้งโรคแทรกซ้อน, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคติดเชื้อทางเขตร้อน, โรคติดเชื้อแทรกซ้อนหลังปลูกถ่ายอวัยวะ, โรคติดเชื้อในผู้ป่วยโรคมะเร็ง/ มะเร็งโรคเลือด
  • Loading