เลือกหัวข้อที่อ่าน
ไข้ชิคุนกุนยา
ไข้ชิคุนกุนยา เป็นโรคที่มียุงเป็นพาหะ เกิดจากไวรัสชิคุนกุนยา ซึ่งเป็นคําในภาษาคิมาคอนเด (Kimakonde) ในประเทศแทนซาเนียและโมแซมบีคในทวีปแอฟริกาซึ่งค้นพบเป็นครั้งแรก แปลว่า "บิดเบี้ยว" โดยอ้างถึงท่าทางของผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากอาการปวดข้อและกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง โรคนี้พบครั้งแรกในแอฟริกาและแพร่กระจายไปยังเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ไข้ชิคุนกุนยามีอาการคล้ายกับโรคไข้เลือดออก (Dengue fever) และโรคไข้ซิก้า (Zika fever) แต่มีอาการบางอย่างที่แตกต่างกันไปในการช่วยแยกโรค ดังนั้นหากสงสัยควรได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างเหมาะสม ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยาจำเพาะในการจำกัดไวรัสที่ก่อให้เกิดไข้ชิคุนกุนยา
การติดต่อแพร่เชื้อ
ไข้ชิคุนกุนยาไม่ติดต่อจากคนสู่คน แต่ติดต่อผ่านวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ยุงสู่คน เมื่อคนที่มีเชื้อชิคุนกุนยาถูกยุงกัด ยุงตัวนั้นจะติดเชื้อและกลายเป็นพาหะโรค เราจึงควรป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด ผู้ที่ติดเชื้อแล้วควรป้องกันตนเองจากการถูกยุงกัดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
- การแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกในขณะอยู่ในครรภ์
- ขณะคลอด
- การสัมผัสกับเลือดที่ติดเชื้อในห้องปฏิบัติการ
การแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกในขณะอยู่ในครรภ์เกิดขึ้นได้บ้าง โดยมักเกิดขึ้นได้ในช่วงไตรมาสที่สอง หากแม่ติดเชื้ออยู่ ขณะกำลังคลอดบุตรสามารถแพร่เชื้อได้ อย่างไรก็ตามหากแม่มาติดเชื้อในช่วงให้นมบุตรจะไม่ทำให้ลูกติดเชื้อไวรัส สามารถให้นมลูกได้เนื่องจากเชื้อไวรัสไม่ส่งผ่านทางน้ำนมแม่ แม้จะอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคชิคุนกุนยาแม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เนื่องจากประโยชน์ของนมแม่มีมากกว่าความเสี่ยงในการติดเชื้อ
การติดเชื้อจากเลือดในห้องปฏิบัติการเกิดขึ้นได้หากบุคลากรทางการแพทย์สัมผัสกับเลือดที่ติดเชื้อ
อาการของโรค
หลังจากถูกยุงที่ติดเชื้อกัด จะมีระยะฟักตัวก่อนเริ่มมีอาการภายใน 3 - 7 วัน
- ไข้สูงเฉียบพลัน
- อาการปวดข้อและบวม
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ปวดศีรษะและคลื่นไส้
- ตาแดง
- ผื่น
อาการมักจะหายภายในหนึ่งสัปดาห์ ยกเว้นอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อซึ่งอาจรุนแรงและมีอาการต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี
โดยปกติแล้วไข้ชิคุนกุนยาจะไม่ทําให้เกิดอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต แต่หากเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคหัวใจ หรืออายุ 65 ปีขึ้นไป ความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงจะเพิ่มมากขึ้น
ควรไปพบแพทย์เมื่อไร
ควรไปพบแพทย์ทันทีที่มีอาการ หรือสงสัยว่าอาจติดเชื้อชิคุนกุนยาแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเพิ่งกลับมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค
การตรวจวินิจฉัย
แพทย์จะซักประวัติการเดินทางว่าเดินทางไปที่ที่มีการระบาดของโรคมาหรือไม่ ตรวจร่างกายและสั่งให้ตรวจเลือดเพื่อตรวจดูว่ามีเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา ไข้เลือดออก หรือซิก้าหรือไม่
การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มียาจำเพาะในการกำจัดไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคชิคุนกุนยา การรักษาที่ดีที่สุดคือการพักผ่อนและรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการ
- ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าไม่ได้เป็นโรคไข้เลือดออก หากเป็นไข้เลือดออกไม่ควรรับประทานยาแอสไพรินและยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เนื่องจากจะไปเพิ่มความเสี่ยงของอาการเลือดออกได้
- รับประทานยา เช่น พาราเซตามอลหรือยาอะเซตามิโนเฟน (acetaminophen) เพื่อลดอาการปวดและมีไข้
- ป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัดในช่วงสัปดาห์แรกที่เป็นไข้ชิคุนกุนยา เพราะยุงที่มากัดจะติดเชื้อและกลายเป็นพาหะโรค
การป้องกัน
ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้ชิคุนกุนยา โรคนี้ติดต่อจากยุงสู่คน การหลีกเลี่ยงการถูกยุงกัดเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค
- ป้องกันตนเองโดยการสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว
- ทายากันยุงที่มีสารป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เช่น พิคาร์ดิน (Picaridin) หรือ (DEET)
- ใช้มุ้งกันยุง
- กําจัดน้ำนิ่งรอบ ๆ บ้าน
- งดการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคชิคุนกุนยา โดยเฉพาอย่างยิ่งหากกําลังตั้งครรภ์หรือมีโรคประจําตัว เช่น โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือในผู้สูงอายุอายุ 65 ปีขึ้นไป
บทความโดย
พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด
แพทย์อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ
ประวัติแพทย์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- คำถาม: ไข้ชิคุนกุนยา คืออะไร?
คำตอบ: ไข้ชิคุนกุนยาเป็นโรคที่มียุงเป็นพาหะ เกิดจากไวรัสชิคุนกุนยา ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสนี้จะทรมานจากอาการปวดข้อและกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง ไข้ชิคุนกุนยามีอาการคล้ายกับโรคไข้เลือดออกและโรคไข้ซิก้า แต่มีอาการบางอย่างที่แตกต่างกันไปในการช่วยแยกโรค
- คำถาม: อาการของไข้ชิคุนกุนยา เป็นอย่างไร?
คำตอบ: หลังจากถูกยุงที่มีเชื้อไวรัสไข้ชิคุนกุนยากัด จะมีระยะฟักตัวก่อนเริ่มมีอาการภายใน 3 – 7 วัน เมื่อเริ่มมีอาการจะไข้สูงเฉียบพลัน ปวดข้อและบวม ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะและคลื่นไส้ ตาแดง ผื่น
- คำถาม: ไข้ชิคุนกุนยา ติดต่อและแพร่เชื้ออย่างไร?
คำตอบ: ไข้ชิคุนกุนยาไม่ติดต่อจากคนสู่คน แต่ติดต่อผ่าวิธีต่าง ๆ เช่น ยุงสู่คน เมื่อคนที่มีเชื้อชิคุนกุนยาถูกยุงกัด ยุงตัวนั้นจะติดเชื้อและกลายเป็นพาหะโรค เราจึงควรป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด ผู้ที่ติดเชื้อแล้วควรป้องกันตนเองจากการถูกยุงกัดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น หรือติดต่อจากการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกในขณะอยู่ในครรภ์ ขณะคลอด หรือการสัมผัสกับเลือดที่ติดเชื้อในห้องปฏิบัติการ เป็นต้น
- คำถาม: รักษาไข้ชิคุนกุนยา ต้องทำอย่างไร?
คำตอบ: ไข้ชิคุนกุนยา ยังไม่มียาจำเพาะในการกำจัดไวรัสและยังไม่มีวัคซีนป้องกัน การรักษาที่ดีที่สุด คือการพักผ่อนและรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการ พบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าไม่ได้เป็นโรคไข้เลือดออก กินยาเพื่อลดอาการปวดและมีไข้ ป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัด