Differences Between Cancer Cells Banner 1.jpg

เซลล์มะเร็งต่างจากเซลล์ปกติอย่างไร

มะเร็งเป็นโรคที่เกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเซลล์ที่ผิดปกติ ไม่สามารถควบคุมได้ โดยอาจกระจายลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้

แชร์

มะเร็งคืออะไร
มะเร็งเป็นโรคที่เกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเซลล์ที่ผิดปกติ ไม่สามารถควบคุมได้ โดยอาจกระจายลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้

โดยทั่วไปแล้วเซลล์ในร่างกายของคนเราจะเติบโตและแบ่งตัวเพื่อสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทนเซลล์เก่าที่เสียหายและกําลังจะตาย หากกระบวนการแบ่งเซลล์ไม่เป็นตามลำดับขั้นตอน เซลล์ที่มียีนที่เปลี่ยนผิดปกติไปเกิดการแบ่งตัวทวีคูณอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อเยื่อหรือเนื้องอกที่ผิดปกติ โดยเนื้องอกนั้นอาจเป็นเนื้องอกธรรมดาไม่ร้ายแรง (ไม่เป็นมะเร็ง) หรือเป็นมะเร็งก็ได้

เนื้องอกธรรมดาไม่ร้ายแรงหรือเนื้องอกไม่เป็นมะเร็งอาจมีขนาดใหญ่ แต่เนื้องอกจะไม่ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อในบริเวณใกล้เคียง เมื่อผ่าตัดนำก้อนเนื้องอกออกไป เนื้องอกชนิดนี้จะไม่กลับมาโตอีก  แม้ว่าเนื้องอกชนิดนี้จะไม่เป็นมะเร็ง แต่ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน ถ้าเกิดในอวัยวะที่สำคัญ ยกตัวอย่างเช่น เนื้องอกในสมอง

เนื้องอกร้ายแรงหรือเนื้องอกที่เป็นมะเร็งอาจกลับมาโตได้อีกหลังผ่าตัดนำก้อนเนื้อออกไปแล้ว เนื้องอกอาจลุกลามแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อรอบ ๆ หรืออวัยวะอื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกล เรียกว่าเป็นการลุกลามแพร่กระจายของมะเร็ง มะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ไม่ทำให้เกิดเนื้องอกหรือก้อนในร่างกาย

ความแตกต่างระหว่างเซลล์ปกติและเซลล์มะเร็ง

  • เซลล์ปกติจะแบ่งตัวเมื่อได้รับสัญญาณจากร่างกายเท่านั้น ในขณะที่เซลล์มะเร็งจะแบ่งตัวแม้ว่าจะไม่ได้รับสัญญาณเหล่านั้นก็ตาม เซลล์มะเร็งจะไม่ตอบสนองต่อสัญญาณของร่างกายที่บอกให้เซลล์ทำลายตัวเองหรือหยุดการเจริญเติบโต ที่เรียกว่า apoptosis
  • เซลล์มะเร็งใช้สารอาหารที่แตกต่างออกไปจากเซลล์ปกติในการเจริญเติบโต และเซลล์มะเร็งบางชนิดเปลี่ยนสารอาหารเหล่านั้นให้เป็นพลังงานด้วยกรรมวิธีที่ต่างออกไป ทําให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้เร็วกว่าเซลล์ปกติ ในบางกรณีก้อนมะเร็งสามารถกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดลำเลียงออกซิเจนและอาหารเพื่อไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง (Angiogenesis)
  • เซลล์ปกติจะหยุดการเจริญเติบโตเมื่อสัมผัสกับเซลล์อื่น ๆ รอบข้าง เซลล์ปกติจะไม่แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ แต่เซลล์มะเร็งจะลุกลามเข้าไปยังเนื้อเยื่อรอบข้างและแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ
  • เซลล์มะเร็งสามารถซ่อนตัวจากระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งทำหน้าที่ฆ่าเซลล์ที่ผิดปกติหรือเซลล์แปลกปลอม เซลล์มะเร็งสามารถหลอกระบบภูมิคุ้มกันให้ช่วยให้เซลล์มะเร็งเติบโตต่อไปได้ เช่น สร้างโปรตีนบางชนิดหลอกระบบภูมิคุ้มกันเสมือนเป็นเซลล์ปกติในร่างกายทั่วไป
  • เซลล์มะเร็งจะมีการกลายพันธุ์ยีน และโครโมโซม ทั้งการเพิ่มขึ้น ขาดหายไปได้

เซลล์มะเร็งนั้นแบ่งตัวเติบโตได้เพราะลักษณะเฉพาะตัวที่ต่างจากเซลล์ปกติ ด้วยเหตุนี้จึงมีการพัฒนาวิธีการรักษามะเร็งบางประเภทเพื่อแทรกแซงหรือยับยั้งการเลี้ยงตัวเองของเซลล์มะเร็ง เช่น การรักษามะเร็งเพื่อสกัดกั้นและหยุดการลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารจากหลอดเลือดไปยังเนื้องอก

อะไรคือสาเหตุของโรคมะเร็ง
การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมหรือยีนที่ควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ การแบ่งตัว และหน้าที่ของเซลล์เป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็ง ปัจจัยที่อาจทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ได้แก่

  • พันธุกรรม
  • ความผิดปกติของการแบ่งตัวของเซลล์
  • ดีเอ็นเอเสียหายหรือถูกทำลายเนื่องจากได้รับสารเคมีที่เป็นอันตรายจากสิ่งแวดล้อม

ร่างกายของคนเรามีกลไกกำจัดเซลล์ที่มี DNA ที่บกพร่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์เหล่านั้นกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ อย่างไรก็ตามเมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการกำจัดเซลล์นี้จะเสื่อมถอยลง ผู้ที่มีอายุมากขึ้นจึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งสูง การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของมะเร็งนั้นเกิดขึ้นอยู่เสมอ เนื้องอกหนึ่งก้อนอาจจะมีเซลล์ที่มีพันธุกรรมที่แตกต่างกันรวมอยู่ด้วยกัน

มะเร็งระยะลุกลาม
การลุกลามของมะเร็งเป็นกระบวนการที่เซลล์มะเร็งบุกรุกหรือแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ เซลล์มะเร็งเหล่านี้เป็นมะเร็งระยะลุกลาม หากมะเร็งปอดแพร่กระจายไปยังสมอง เราจะเรียกว่ามะเร็งปอดระยะลุกลาม ไม่ใช่มะเร็งสมอง เซลล์มะเร็งระยะลุกลามจะมีลักษณะคล้ายกับเซลล์มะเร็งตรงจุดต้นกำเนิดและมีโครงสร้างโครโมโซมคล้ายกัน

การรักษามะเร็งระยะลุกลามเป็นการจํากัดการแพร่กระจายของมะเร็งและบรรเทาอาการที่เกิดจากมะเร็ง มะเร็งระยะลุกลามเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุด  

การเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อแบบไม่เป็นมะเร็ง
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อเกิดขึ้น ไม่จำเป็นว่าเนื้อเยื่อนั้นจะกลายเป็นมะเร็งเสมอไป อย่างไรก็ตามควรทำการตรวจสอบและรักษาเนื้อเยื่อที่เปลี่ยนไปนั้นเพื่อป้องกันการพัฒนาไปเป็นมะเร็ง

  • เนื้อเยื่อหนาตัว (Hyperplasia) เป็นผลมาจากการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วของของเซลล์ปกติ ทําให้เกิดการสะสมของเซลล์ใหม่ เซลล์เหล่านี้มีระเบียบและเป็นปกติเมื่อตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ การเสียดสีระคายเคืองบ่อย ๆ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิด Hyperplasia
  • การเจริญผิดปรกติ (Dysplasia) ร้ายแรงกว่าเนื้อเยื่อหนาตัว (Hyperplasia) โดยหน้าตาและการจัดเรียงของเซลล์ดูผิดปกติ เช่น ไฝ dysplastic nevus เป็นการเจริญเติบโตที่ผิดปรกติบางครั้งลุกลามเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาได้

มะเร็งชนิดไม่ลุกลาม (Carcinoma in situ) หรืออาจถูกเรียกว่าเป็นมะเร็งระยะศูนย์ โดย Carcinoma in situ จะไม่ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อโดยรอบ แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาเพราะอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งขั้นร้ายแรงได้






บทความโดย
นพ.สุดปรีดา ชัยนิธิกรรณ
อายรุแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา
ประวัติแพทย์

เผยแพร่เมื่อ: 19 ต.ค. 2022

แชร์