ภาวะปัสสาวะบ่อย
ภาวะปัสสาวะบ่อย คือภาวะที่มีการปัสสาวะมากกว่า 4 - 8 ครั้งในหนึ่งวัน ซึ่งเป็นอาการปกติจากการตั้งครรภ์หรืออาจเกิดจากปัญหาทางด้านสุขภาพร่างกายที่ร้ายแรงกว่านั้น เช่น ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไว กลุ่มโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ปัญหาต่อมลูกหมาก หรือโรคเบาหวาน ภาวะปัสสาวะบ่อยอาจทำให้ต้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำบ่อยในตอนกลางคืน (ภาวะปวดปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน) รบกวนการนอนหลับและคุณภาพชีวิตได้
สาเหตุ
ผู้ใหญ่วัยกลางคน หญิงที่กําลังตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีต่อมลูกหมากโตมีแนวโน้มที่จะปัสสาวะบ่อย อย่างไรก็ตามภาวะปัสสาวะบ่อยอาจเป็นผลมาจากปัญหาสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือรุนแรงหลาย ๆ ประการ เช่น
- การตั้งครรภ์ เป็นเรื่องปกติที่สตรีมีครรภ์จะปัสสาวะบ่อย เพราะทารกกินพื้นที่ในท้องและเบียดทับกระเพาะปัสสาวะ ภาวะปัสสาวะบ่อยมักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสที่สามมากกว่าไตรมาสที่สองที่มดลูกเคลื่อนตัวสูงขึ้น จึงไม่กดทับกระเพาะปัสสาวะ ภาวะปัสสาวะบ่อยในระหว่างตั้งครรภ์ถือเป็นอาการปกติซึ่งจะหายไปเองหลังคลอด แพทย์อาจแนะนําให้ออกกําลังกายกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน (Kegel) เพื่อป้องกันภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- โรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเบาหวาน – ทั้งประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 – จะมีน้ำตาลระดับสูงในเลือด ทำให้ไตต้องทํางานหนักเพื่อดูดซึมน้ำตาลกลับคืนจากของเหลวที่ขับผ่านหน่วยกรองของไต น้ำตาลส่วนที่ถูกดูดซึมกลับไม่หมดพร้อมสารน้ำจะถูกขับทิ้งทางปัสสาวะเป็นปริมาณมาก ทําให้เกิดภาวะขาดน้ำตามมา ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงรู้สึกกระหายน้ำ ดื่มน้ำมากขึ้น และปัสสาวะบ่อยครั้ง
- ปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะเป็นสาเหตุของภาวะปัสสาวะบ่อยที่พบได้มากที่สุด สาเหตุอื่น ๆ ได้แก่ ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไว และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังชนิดไม่ติดเชื้อ ท่อปัสสาวะตีบโดยเฉพาะในสตรีกลางคนที่ผ่านการคลอดบุตรมาหลายปี เป็นต้น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะอาจทําให้ปัสสาวะบ่อยแต่มักพบได้น้อยมาก
- ปัญหาเรื่องต่อมลูกหมาก ต่อมลูกหมากโตเป็นอีกสาเหตุของการปัสสาวะบ่อย เนื่องจากต่อมลูกหมากเบียดทับท่อปัสสาวะทำให้การขับถ่ายปัสสาวะต้องใช้แรงเบ่งมากขึ้น โดยโรคต่อมลูกหมากโตสามารถรักษาให้หายได้
สาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดภาวะปัสสาวะบ่อย ๆ ได้แก่ การบริโภคแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนมากเกินไป การใช้ยาขับปัสสาวะ ภาวะช่องคลอดอักเสบ อุ้งเชิงกรานหย่อน รังสีรักษาบริเวณอุ้งเชิงกราน และภาวะอัมพาตจากโรคหลอดเลือดสมอง
การตรวจวินิฉัย
แพทย์อาจทำการตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- การเก็บปัสสาวะเพื่อตรวจดูแบคทีเรียและเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งจะทำให้ทราบได้ว่ามีร่างกายมีการติดเชื้อหรือไม่
- การอัลตราซาวด์เพื่อตรวจดูว่ามีเนื้องอกหรือไม่
- การส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ โดยมักใช้ในรายที่
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย ๆ
- ปัสสาวะบ่อยเรื้อรังแต่ตรวจไม่พบการอักเสบโดยเฉพาะในหญิงวัยกลางคนที่ผ่านการคลอดบุตรมาหลายปี
การรักษา
หากภาวะปัสสาวะบ่อยเป็นผลมาจากการตั้งครรภ์ อาการมักจะหายได้เองหลังคลอดบุตร สําหรับสาเหตุอื่น ๆ ผู้ป่วยควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อค้นหาสาเหตุ พร้อมวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
ผู้ป่วยอาจสามารถดูแลจัดการภาวะปัสสาวะบ่อยได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยา โดย
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะ
- งดดื่มน้ำก่อนเข้านอน
- ออกกําลังกายเป็นประจําเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
- สวมชุดชั้นในหรือแผ่นซึมซับเพื่อป้องกันปัสสาวะรั่วไหล ในระหว่างที่ได้รับการรักษา
ควรไปพบแพทย์เมื่อไร
หากรู้สึกว่าปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ผู้ป่วยอาจลองลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและสังเกตดูว่าอาการดีขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุของโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่มีอาการดังต่อไปนี้
- ปัสสาวะบ่อยและกระปริบกระปรอย
- ปัสสาวะแสบขัด
- ตื่นนอนมากกว่า 2 ครั้งเพื่อปัสสาวะ
- ปัสสาวะบ่อยเรื้อรังหรือเป็น ๆ หาย ๆ
- มีไข้และอาเจียน
- ปวดหลังส่วนล่างและด้านข้าง บริเวณระดับไต
- ปัสสาวะมีเลือดปน
- ตกขาวหรือมีสารคัดหลั่งออกมาจากอวัยวะเพศ
ตัวอย่างคําถามที่แพทย์อาจถาม
- คุณดื่มน้ำมากเท่าไรในแต่ละวั
- คุณรู้สึกว่าเพิ่งจะมาดื่มน้ำมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือไม่
- คุณรับประทานยาใดๆ อยู่หรือไม่
- คุณมักจะดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่