Thailand Medical Tourism: Treatments and Procedures

ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในไทย 8 หัตถการยอดนิยมปี 2023

ประเทศไทย ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากมายในแต่ปี โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์แห่งประเทศไทย

แชร์

ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในไทย 


ประเทศไทย ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากมายในแต่ปี โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์แห่งประเทศไทยและรัฐบาล ในปี 2566 การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ไทยมีมูลค่าสูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์ มีนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เข้ามารับการรักษาและเข้าโปรแกรมบำบัดฟื้นฟูหลายสาขา ประมาณ 3 ล้านคน นับว่าไทยมีความโดดเด่นในตลาดการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของเอเชีย โดยครองส่วนแบ่งการตลาดของภูมิภาคได้เกือบ 90% มีอัตราการเติบโตน่าประทับใจที่ 16%  สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำตลาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งไทยสามารถตอบสนองต่อความต้องการการแพทย์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การผ่าตัดหัวใจที่ซับซ้อนไปจนถึงศัลยกรรมความงาม ตอกย้ำไทยในฐานะศูนย์กลางทางการแพทย์ชั้นนำ ที่นอกเหนือจากการให้การรักษาที่มีคุณภาพแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถใช้เวลาระหว่างพักฟื้น ชื่นชมกับความงามทางธรรมชาติที่ซ่อนเร้น ทั้งยังได้ลิ้มรสอาหารไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้สัมผัสกับประสบการณ์การต้อนรับที่น่าประทับใจท่ามกลางความรุ่มรวยของมรดกทางวัฒนธรรม และเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย

ทำไมไทย เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์

  • ความเป็นเลิศทางการแพทย์ในราคาที่เข้าถึงได้ (Affordable Excellence) ประเทศไทยให้การรักษาคุณภาพสูง ในราคาค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่าประเทศตะวันตกอย่างมาก แต่ไม่ลดทอนคุณภาพการรักษาแต่อย่างใด
  • โรงพยาบาลที่ทันสมัย (State-of-the-Art Facilities) ประเทศไทยเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI หลายแห่งที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีทางการแพทย์และอุปกรณ์การรักษาที่ทันสมัย ทำให้​​มั่นใจได้ถึงมาตรฐานสุขอนามัยขั้นสูงและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด พร้อมด้วยบริการที่สะดวกรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรอรับการรักษานาน
  • แพทย์ที่มีความชำนาญ (Highly Skilled Doctors) ไทยมีแพทย์ผู้ชำนาญการครอบคลุมหลายสาขา และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ทั้งสาขาโรคหัวใจ ศัลยกรรมกระดูกและข้อ มะเร็งวิทยา จักษุวิทยา ทันตกรรม ชีววิทยาการเจริญพันธุ์ หรือศัลยกรรมความงาม ที่คอยให้บริการการตรวจวินิจฉัยที่ครอบคลุม และมอบการรักษาทางการแพทย์ที่ดีที่สุด พร้อมให้ทางเลือกการรักษาที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้มั่นใจได้ถึงมาตรฐานการดูแลและผลการรักษาที่ดีที่สุด
  • ดื่มด่ำกับวัฒนธรรม (Cultural Immersion) ประเทศไทยดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยทัศนียภาพอันงดงาม วิวทิวทัศน์ที่ตื่นตา ชายหาดที่เงียบสงบ และที่พักรีสอร์ทเพื่อสุขภาพที่ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย ทั้งยังได้สัมผัสกับความมีชีวิตชีวาและวิถีชีวิตของคนไทย
  • การต้อนรับอย่างไทย (Thai Hospitality) เอกลักษณ์การต้อนรับอย่างไทยที่เปี่ยมเสน่ห์ คือคุณค่าของคนไทยที่มีชื่อเสียงมาช้านานในด้านความอบอุ่น เป็นมิตร และความมีน้ำใจ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกกับการให้ความสำคัญกับความเคารพ ความเอาใจใส่ และความโอบอ้อมอารี ในระหว่างการเข้าพักในไทย นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้ถึงประสบการณ์การต้อนรับอย่างไทยในทุกแง่มุมการบริการ เนื่องจากคนไทยให้การใส่ใจในรายละเอียดเฉพาะบุคคลได้อย่างดีเยี่ยม ตลอดจนการสร้างบรรยากาศแวดล้อมที่สะดวกสบาย ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกได้ถึงความมีคุณค่าและบรรยากาศการพักอาศัยที่อบอุ่น
  • บูรณาการด้านสุขภาพและความอยู่ดีมีสุข (Health and Wellness Integration) โปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทย ผสมผสานการรักษาทางการแพทย์เข้ากับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้อย่างลงตัว ในระหว่างที่เข้าพักในไทย ผู้รับการรักษาสามารถเข้าโปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพแบบอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการรักษา เช่น การนวดแผนไทย การทำสปา หรือการฝึกสมาธิเพื่อส่งเสริมสุขภาพกายใจ เพื่อช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูให้เร็วยิ่งขึ้น
  • รองรับประกันสุขภาพชั้นนำทั่วโลก (Health Insurance Acceptance) โรงพยาบาลชั้นนำของไทยส่วนใหญ่ ให้การตอบรับประกันสุขภาพชั้นนำจากทั่วโลก ช่วยให้ผู้รับการรักษาสามารถเข้าถึงเครือข่ายผู้ให้บริการที่ตนต้องการ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษา และลดความยุ่งยากของกระบวนการเคลมประกัน บุคลากรทางการแพทย์ของไทยได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับแผนประกันสุขภาพ ช่วยให้รู้สึกอุ่นใจ สบายใจ และไร้กังวลในระหว่างที่เข้ารับการรักษาในไทย

8 หัตถการยอดนิยม การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในไทย

1. ผ่าตัดหัวใจ

ประเทศไทยให้บริการการผ่าตัดหัวใจ ครอบคลุมทั้งการผ่าตัดบายพาสหัวใจ (CABG) การเปลี่ยนลิ้นหัวใจ หรือการผ่าตัดหัวใจแผลเล็ก โดยในปี 2023 ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดหัวใจโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระหว่าง 15,000-3,5000 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่าในประเทศตะวันตกเป็นอย่างมากที่มีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ราว 70,000-200,000 ดอลลาร์ และด้วยความคุ้มค่า ระยะเวลารอรับการรักษาไม่นาน และแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ประกอบกับการดูแลที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย ​​ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการผ่าตัดหัวใจ

2. ผ่าตัดกระดูกและข้อ

ประเทศไทยได้รับการยกย่องในด้านการผ่าตัดกระดูกและข้อที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องแบบแผลเล็ก ผ่าตัดเชื่อมกระดูกสันหลังส่วนเอว (TLIF) ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมและผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม หรือการผ่าตัดกระดูกสันหลังคดที่มีความซับซ้อน ในปี 2023 ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมและข้อเข่าเทียมในไทยอยู่ที่ราว 70,000-15,000 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าประเทศตะวันตกประมาณ 50-70% โรงพยาบาลศัลยกรรมกระดูกและข้อในไทย ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ​​มีศัลยแพทย์กระดูกและข้อที่ได้รับวุฒิบัตรทางการแพทย์ระดับสากล และมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการผ่าตัดกระดูกและข้อ

3. ทันตกรรม


ประเทศไทยมีชื่อเสียงทางด้านทันตกรรมระดับโลก ทั้งทันตกรรมบูรณะและทันตกรรมเพื่อความสวยงามเพื่อสรรค์สร้างรอยยิ้มใหม่ที่สวยงามโดยทันตแพทย์ผู้ชำนาญการหลายสาขา ทั้งทันตแพทย์ทันตกรรมประดิษฐ์ ทันตแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมใบหน้าและขากรรไกร ปริทันตแพทย์ ทันตกรรมหัตถการ และอื่นๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในปี 2023 ต่างกันตามหัตถการ เช่น รากฟันเทียมพร้อมครอบฟันประมาณ 2,480 ดอลลาร์ วีเนียร์ประมาณ 470 ดอลลาร์ และรากฟันเทียมทั้งปาก All-On-4 ประมาณ 7,800-12,000 ดอลลาร์ การท่องเที่ยวเชิงทันตกรรมของไทย ได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพสูง ราคาจับต้องได้ และพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางลำดับแรก ๆ สำหรับการท่องเที่ยวเชิงทันตกรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างการดูแลทางทันตกรรมชั้นเลิศและประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าจดจำ

4. ทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI


ประเทศไทยเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำเด็กหลอดแก้วสำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก ไม่ว่าจะเป็นวิธี IVF หรือ ICSI ด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า โรงพยาบาลที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง และแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์เจริญพันธุ์ สูตินรีแพทย์ และนรีแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการผดุงครรภ์และการดูแลทารกในครรภ์ ที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์มาแล้วมากมาย โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการทำ IVF  ของปี 2023 ในไทยอยู่ประมาณ 8,000-13,700 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการทำ ICSI อยู่ที่ประมาณ 10,000 ดอลลาร์ แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานประกอบการ และความต้องการของผู้รับการรักษาแต่ละบุคคล โดยอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับยา การตรวจทางพันธุกรรม และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ด้วยความต้องการการรักษาภาวะมีบุตรยากที่เพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงชื่อเสียงของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ด้านเวชศาสตร์เจริญพันธุ์อย่างแท้จริง

5. ศัลยกรรมความงาม


ประเทศไทยเป็นที่รักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกด้านศัลยกรรมความงามหลากหลายสาขา ด้วยราคาที่ย่อมเยา มาตรฐานคุณภาพของโรงพยาบาล และความชำนาญของศัลยแพทย์ ศัลยกรรมความงามของไทยขึ้นชื่อด้านความพร้อมของโรงพยาบาลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย และเทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็ก (MIS) ที่ให้ผลลัพธ์ความงามที่น่าพึงพอใจ ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยด้านศัลยกรรมความงามในปี 2023 ในไทยตามประเภทของหัตถการ เช่น การดึงหน้ามีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 4,000-7,000 ดอลลาร์ การผ่าตัดขากรรไกรมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10,000-20,000  ดอลลาร์ และการฉีดโบท็อกซ์ มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10-15 ดอลลาร์ต่อยูนิต และด้วยข้อดีที่เหนือกว่าด้านราคา การให้การติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง บวกกับการได้พักฟื้นท่ามกลางธรรมชาติเขตร้อนที่งดงาม ทำให้ประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมความงามจากทั่วโลก

6. ผ่าตัดรักษาตา


ประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับสากลด้านการผ่าตัดรักษาดวงตา ไทยมีจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการมากมาย มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย และมีโรงพยาบาลที่มีความพร้อมรองรับการรักษาโรคตาทุกชนิด เช่น โรคกระจกตา โรคจอประสาทตา ต้อหิน ต้อกระจก และการทำเลสิก ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในการทำเลสิกทั้ง 2 ข้างในปี 2023 อยู่ที่ 1,500-2,050  ดอลลาร์ ขณะที่การผ่าตัดต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม ราคาประมาณ 2,400 ดอลลาร์ต่อ 1 ข้าง นอกจากเทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็ก ระยะเวลาพักฟื้นที่สั้น และมาตรฐานอนามัยขั้นสูงแล้ว ผู้รับการรักษายังได้รับบริการที่ดีเยี่ยม ได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นมิตรและการดูแลเอาใจใส่อย่างดีในระหว่างพักฟื้น ที่ช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น ข้อได้เปรียบเหล่านี้ ทำให้ไทย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาผ่าตัดรักษาดวงตา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

7. การรักษามะเร็ง


ไทยได้รับการยอมรับในระดับสากลมาอย่างยาวนานในด้านการรักษามะเร็งอย่างครอบคลุมด้วยวิธีการรักษาอันหลากหลาย ทั้งเคมีบำบัด ภูมิคุ้มกันบำบัด ยามุ่งเป้า การฉายแสง การปลูกถ่ายไขกระดูกหรือสเต็มเซลล์ และการผ่าตัด ไทยมีเทคโนโลยีการมะเร็งขั้นสูง มีโรงพยาบาลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านมะเร็งวิทยาที่ได้รับการรับรองวุฒิบัตร รวมถึงบุคลากรการแพทย์สหสาขาวิชาชีพที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ในปี 2023 ค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งโดยเฉลี่ยในไทย คาดว่าอยู่ระหว่าง 2,000-130,900 ดอลลาร์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับชนิด ระยะ และวิธีการรักษาเฉพาะทาง ค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งเต้านมด้วยการฉายแสงอยู่ที่ 2,000-2,600 ดอลลาร์ ค่าใช่จ่ายในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากอยู่ที่ประมาณ 5,700 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าประเทศตะวันตกถึง 60-70% อย่างมีนัยสำคัญ และด้วยมาตรฐานการดูแลขั้นสูง ความสำเร็จในการรักษามากมาย และโอกาสการรักษาไปพร้อม ๆ กับการได้พักผ่อน ทำให้ไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพสูง

8. การบำบัดฟื้นฟูจากภาวะลองโควิด


โควิด 19 ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของผู้คนทั่วโลก รวมถึงส่งผลกระทบระยะยาวจากภาวะลองโควิด ประเทศไทยมีโปรแกรมฟื้นฟูร่างกายจากภาวะลองโควิดมากมาย ที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ที่พักรักษาตัวในระยะยาว ด้วยผู้ให้บริการที่มีความชำนาญครอบคลุมหลายโปรแกรม ทั้งกายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการรับรู้ สุขภาพจิต โภชนาการ และคำแนะนำด้านการใช้ชีวิตเพื่อให้ฟื้นฟูร่างกายได้อย่างเต็มที่ ในปี 2023 ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสำหรับโปรแกรมฟื้นฟูจากภาวะลองโควิดในไทยอยู่ที่ราว 1,000-5,000 ดอลลาร์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและระยะเวลาของโปรแกรมบำบัด สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการฟื้นฟูร่างกายในไทยที่เพิ่มสูงขึ้นจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และด้วยข้อได้เปรียบที่หลากหลาย ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการพักฟื้นร่างกายจากภาวะลองโควิด เพื่อฟื้นฟูสุขภาพให้ดีโดยรวม

ระเทศไทย จุดหมายการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ที่ควรค่าแก่การมาเยือน

ประเทศไทย มีชื่อเสียงในเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่เข้าถึงได้และค่าที่พักที่คุ้มค่า เนื่องจากราคาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศในอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้รับการรักษาที่ต้องใช้เวลา ความพยายาม และระยะเวลาที่ยาวนาน ที่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ลงได้มากถึง 70-80% โรงพยาบาลในไทยหลายแห่ง ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในรายชื่อโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกโดยนิตยสาร Newsweek ที่จัดอันดับจากคะแนนของผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์ผู้ป่วย ผลลัพธ์การรักษา และการดูแลที่มีคุณภาพของโรงพยาบาล ส่งผลให้ไทย กลายเป็นผู้นำความเป็นเลิศด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ระดับโลก ด้วยชื่อเสียงที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่แสวงหาการรักษาที่มีคุณภาพในราคาที่ย่อมเยา ด้วยแนวทางการรักษาที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ทั้งยังได้ท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กัน ทำให้ไทยเป็นจุดหมายที่เต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน และคุ้มค่ากับการมาเยือนสักครั้งในชีวิต

โรงพยาบาลเมดพาร์ค ส่วนหนึ่งการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทย

โรงพยาบาลเมดพาร์ค กรุงเทพ ประเทศไทย หนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของไทย 3 ปีซ้อน จากการจัดอันดับของนิตยสาร Newsweek และได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI มีความภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทย ที่ให้การบริการการรักษาที่ดีเยี่ยมแก่ผู้รับการรักษาจากทั่วโลก ทั้งการรักษาโรคทั่วไปจนถึงโรคซับซ้อน ด้วยการรักษาที่มีประสิทธิภาพ การดูแลที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อให้ผู้รับการรักษามั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่มีปริทธิภาพสูงสุด การดูแลสุขภาพแบบครอบคลุม ที่ช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นในระยะยาว หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล และคู่มือการเดินทางมายังโรงพยาบาลเมดพาร์ค ท่านสามารถส่งคำถามผ่านทาง www.medparkhospital.com  หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My MedPark เพื่อเข้าถึงข้อมูลการรักษากับเรา

เผยแพร่เมื่อ: 12 ก.ค. 2024

แชร์

บทความสุขภาพ

เช็กอาการปวดหัว 3 ประเภท ปวดแบบไหน เกิดจากอะไร - Understanding the 3 Main Types of Headaches and Their Causes

เช็กอาการปวดหัว 3 ประเภท ปวดแบบไหน เกิดจากอะไร

อาการปวดหัวเป็นสิ่งที่หลายคนคุ้นเคย ไม่ว่าจะปวดตุบที่ขมับ ปวดบีบ หรือปวดตื้อท้ายทอย ซึ่งมักเกิดจากความอ่อนล้า พักผ่อนไม่พอ หรือจ้องจอนาน

Goto page arrow icon
Doctor Examination Young Man With Stethoscope Hospital

ตรวจสมรรถภาพปอด รู้ทันโรคร้าย รับมือง่ายขึ้น

ปอดเป็นอวัยวะสำคัญ หากทำงานผิดปกติอาจกระทบสุขภาพ โรคอย่างหอบหืด ถุงลมโป่งพอง หรือปอดอุดกั้น ต้องวินิจฉัยให้ชัด การตรวจสมรรถภาพปอดช่วยประเมินได้

Goto page arrow icon
AI for Insomnia Insights From a Sleep Specialist

ใช้ AI แก้ปัญหานอนไม่หลับ ผ่านมุมมองแพทย์เวชศาสตร์การนอนหลับ

ผศ.นพ. จิรยศ จินตนาดิลก ชวนเจาะลึกบทบาท AI ที่เข้ามามีในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่งานทั่วไปจนถึงวงการแพทย์ ผ่านมุมมองแพทย์เวชศาสตร์การนอนหลับ ว่าเราควรไว้ใจ AI ดูแลสุขภาพแค่ไหน

Goto page arrow icon
ดูทั้งหมด medpark