เลือกหัวข้อที่อ่าน
- การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะคืออะไร?
- ส่องกล้อง cystoscope ตรวจกระเพาะปัสสาวะ มีกี่แบบ?
- ทำไมต้องส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ?
- ขั้นตอนการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ มีวิธีการอย่างไร?
- การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะเจ็บหรือไม่?
- ควรปฎิบัติตัวอย่างไร หลังการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ?
- ภาวะแทรกซ้อนของการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะมีอะไรบ้าง?
- ทราบผลการตรวจการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะเมื่อใด?
- คำแนะนำจากแพทย์โรงพยาบาลเมดพาร์ค
การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะคืออะไร?
การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy) เป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยเยื่อบุผนังกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ โดยแพทย์จะทำการสอดกล้อง cystoscope ผ่านทางท่อปัสสาวะเข้าไปยังกระเพาะปัสสาวะ ก่อนตรวจแพทย์อาจทายาชาเฉพาะที่หรือให้ยาระงับความรู้สึกทั่วร่างกาย ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการส่องกล้อง
ส่องกล้อง cystoscope ตรวจกระเพาะปัสสาวะ มีกี่แบบ?
แพทย์อาจใช้กล้อง cystoscope แบบแข็งหรือแบบอ่อนขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการตรวจ
- กล้อง cystoscope แบบอ่อน แพทย์จะทำการสอดกล้องเข้าไปทางท่อปัสสาวะเพื่อตรวจดูกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ อาการระคายเคืองหรือเจ็บตอนส่องกล้องจะน้อยกว่าแบบแข็ง
- กล้อง cystoscope แบบแข็ง สามารถใช้เพื่อตรวจดูภายในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะได้เช่นกัน มีข้อดีกว่าแบบอ่อนในเรื่องที่สามารถทำหัตถการที่เกี่ยวข้องได้หลากหลายกว่า
ทำไมต้องส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ?
- เพื่อตรวจดูอาการ เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะเล็ด ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน หรือปัสสาวะแสบขัด การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะยังช่วยในการระบุสาเหตุของการติดเชื้อในทางเดินระบบทางเดินปัสสาวะซ้ำ ๆ
- เพื่อตรวจวินิจฉัยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- รักษาโรคกระเพาะปัสสาวะ เช่น ผ่าตัดนำนิ่วกระเพาะปัสสาวะออก
- เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโต โดยการตรวจหาตำแหน่งที่ท่อปัสสาวะตีบ
ในผู้ป่วยบางราย แพทย์อาจทำการส่องกล้องผ่านท่อไตไปพร้อมกับการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ เพื่อตรวจวินิจฉัยท่อไต ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงปัสสาวะจากไตไปยังกระเพาะปัสสาวะ
ก่อนส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ ควรเตรียมตัวอย่างไร?
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากสงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์หรือกำลังรับประทานยา แพทย์อาจให้ผู้ป่วยปรับลดขนาดยา อย่างไรก็ตามไม่ควรงดรับประทานยาเอง เว้นแต่แพทย์สั่ง
- เข้ารับการตรวจปัสสาวะเพื่อหาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หากพบการติดเชื้อ อาจต้องเข้ารับการรักษาให้หายดีเสียก่อนที่จะเข้ารับการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ
- งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะประเภทที่ต้องใช้ยาระงับความรู้สึกทั่วร่างกาย
- พาเพื่อนหรือคนในครอบครัวมาด้วยในวันที่เข้ารับการตรวจ
ขั้นตอนการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ มีวิธีการอย่างไร?
แพทย์จะให้ผู้เข้ารับการตรวจปัสสาวะทิ้งก่อนเข้ารับการตรวจ แล้วจึงทายาชาหรือให้ยาระงับความรู้สึกก่อนที่จะใส่กล้อง cystoscope ที่ทาเจลหล่อลื่นไว้แล้วเข้าไปยังกระเพาะปัสสาวะผ่านทางท่อปัสสาวะ จากนั้นแพทย์จะทำการปล่อยสารละลายน้ำเกลือผ่านเข้าไปทาง cystoscope เพื่อขยายกระเพาะปัสสาวะ ทำให้มองเห็นภาพเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะได้ชัดเจนขึ้น ระหว่างนี้ผู้เข้ารับการตรวจอาจรู้สึกปวดปัสสาวะ แพทย์จะทำการตรวจโพรงกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะและอาจจะเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อหรือผ่าตัดนำเนื้องอกออก จากนั้นจึงระบายสารละลายน้ำเกลือออกจากกระเพาะปัสสาวะหรือให้ผู้เข้ารับการตรวจไปปัสสาวะออก
การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะใช้เวลานานเท่าไร?
การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะเพื่อการตรวจวินิจฉัยจะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที แต่การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะเพื่อการรักษาและตัดชิ้นเนื้อจะใช้เวลานานกว่า
ผู้เข้ารับการตรวจจะรู้สึกตัวระหว่างการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะหรือไม่?
ผู้เข้ารับการตรวจจะรู้สึกตัวระหว่างการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะเพื่อการตรวจวินิจฉัย แพทย์จะทายาชาเฉพาะที่เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ แต่การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะเพื่อการรักษาและตัดชิ้นเนื้อนั้น แพทย์อาจจะให้ยาสงบประสาทหรือยาระงับความรู้สึกทั่วร่างกาย แล้วแต่ความเหมาะสมของคนไข้รายนั้น
การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะเจ็บหรือไม่?
ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดปัสสาวะหรือไม่สบายตัว แต่สามารถลดความรู้สึกเจ็บเนื่องจากยาชาและยาระงับความรู้สึก
ควรปฎิบัติตัวอย่างไร หลังการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ?
หากผู้ป่วยได้รับยาสงบประสาทหรือยาระงับความรู้สึกทั่วร่างกาย ผู้ป่วยอาจต้องนอนพักจนกว่ายาจะหมดฤทธิ์ จึงจะสามารถกลับบ้านได้
อาการข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่ มีเลือดออกจากท่อปัสสาวะ รู้สึกแสบเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อยในช่วงหนึ่งถึงสองวันแรก
ทั้งนี้ผู้เข้ารับการตรวจสามารถปฎิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ เพื่อบรรเทาอาการไม่สบายตัวได้
- ดื่มน้ำมาก ๆ ตลอดทั้งวัน เพื่อกำจัดสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองออกจากกระเพาะปัสสาวะ โดย 2 ชั่วโมงหลังการตรวจ ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 2 แก้ว (16 ออนซ์) ทุกชั่วโมง
- รับประทานยาแก้ปวด
- ประคบอุ่นบริเวณที่ส่องกล้องเพื่อบรรเทาอาการปวด
ต้องใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะรู้สึกดีขึ้นหลังการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ?
ส่วนใหญ่แล้วผู้เข้ารับการตรวจจะรู้สึกเป็นปกติภายในหนึ่งหรือสองวัน เว้นแต่ว่ามีการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจด้วย ซึ่งการพักฟื้นอาจนานขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนของการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะมีอะไรบ้าง?
- การติดเชื้อแบคทีเรีย โดยความเสี่ยงจะสูงขึ้นตามอายุ และความผิดปกติทางกายวิภาคของระบบทางเดินปัสสาวะ
- มีเลือดออก โดยปัสสาวะอาจมีสีชมพูหรือแดงบ้าง หรือเช็ดทำความสะอาดแล้วพบเลือดบนกระดาษทิชชู่ อย่างไรก็ตามภาวะเลือดออกมากนั้นพบได้น้อยมาก
- ความรู้สึกไม่สบายตัว ผู้เข้ารับการตรวจอาจรู้สึกปวดท้อง ปัสสาวะแสบขัดเล็กน้อย ซึ่งอาการมักค่อย ๆ ดีขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหลังส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ
- ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไม่ออก
- มีเลือดสดหรือลิ่มเลือดในปัสสาวะ
- ปวดท้องและคลื่นไส้
- มีไข้สูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียส
- ปวดอุ้งเชิงกรานมาก
- ปัสสาวะขุ่น มีกลิ่นเหม็น ร่วมกับแสบขัด
จะทราบผลการตรวจการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะเมื่อไร?
แพทย์จะแจ้งผลการตรวจในวันที่ตรวจ เว้นแต่ว่ามีการตัดชิ้นเนื้อส่งไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 3-7 วันกว่าจะทราบผล โดยแพทย์จะแจ้งให้ทราบหากพบบริเวณที่ท่อปัสสาวะอุดตันหรือตีบตัน นิ่ว เนื้อเยื่อหรือเนื้องอกที่ผิดปกติ
คำแนะนำจากแพทย์โรงพยาบาลเมดพาร์ค
อาการปวด ปัสสาวะเป็นเลือด หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะอาจก่อให้เกิดความวิตกกังวลใจ การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะเป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็ว เกิดภาวะแทรกซ้อนต่ำ และผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว