กระดูกสะโพกหักในผู้ป่วยสูงอายุ
ในปัจจุบัน ประเทศไทยเข้ากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ ภัยเงียบที่มาคู่กับสังผู้สูงอายุก็คือภาวะกระดูกพรุน ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีกระดูกหักง่ายกว่าปกติโดยเฉพาะกระดูกสะโพก และกระดูกสันหลัง
ภาวะกระดูกสะโพกหักในผู้สูงอายุ ถือเป็นภาวะเร่งด่วนในการรักษา และอาจรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันการ จากการศึกษาพบว่าอัตราการเสียชีวิตภายใน 1 ปีนั้นสูงถึง 20 - 35% เลยทีเดียว
สาเหตุที่กระดูกสะโพกหักในผู้ป่วยสูงอายุ
ส่วนใหญ่สาเหตุเกิดเพียงจากอุบัติเหตุเบา ๆ ไม่รุนแรงภายในบ้าน เช่น ลื่นล้มในห้องน้ำ ตกจากเตียง ทำให้บางครั้งคนรอบตัวไม่คิดว่าจะเกิดการหักของกระดูกขึ้นได้ แต่เนื่องจากคนไข้สูงอายุกลุ่มนี้มักจะมีภาวะกระดูกพรุนร่วมอยู่ด้วย ทำให้เกิดการหักของกระดูกขึ้นได้ แม้จะเป็นเพียงอุบัติเหตุเบา ๆ
อาการและการวินิจฉัยอาการกระดูกสะโพกหักในผู้ป่วยสูงอายุ
อาการที่ควรจะสงสัยและพามาพบแพทย์ ได้แก่ อาการปวดบริเวณรอบสะโพก ไม่สามารถขยับ หรือลงน้ำหนักที่ขาข้างนั้น ขาข้างที่เจ็บอาจจะดูสั้นกว่าอีกข้าง นอกจากนี้ในรายที่เป็นกระดูกหักแบบไม่มีการเลื่อน อาการปวดจะไม่มาก และอาจลงน้ำหนักเดินได้ แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาจะทำให้อาการบาดเจ็บเป็นมากขึ้นได้ จึงควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม โดยแพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และทำการ X ray เพื่อยืนยันการวินิจฉัย
ภาพ X-ray แสดงการหักของกระดูกสะโพกข้างขวา
แนวทางการรักษา
สำหรับการรักษาในผู้ป่วยกลุ่มนี้แนะนำรักษาโดยการผ่าตัดยึดกระดูก หรือเปลี่ยนใส่ข้อสะโพกเทียมขึ้นกับลักษณะของกระดูกที่หัก โดยงานวิจัยปัจจุบันสนับสนุนว่าการผ่าตัดภายใน 24 - 48 ชั่วโมง จะให้ผลการรักษาที่ดีกว่า ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนติดเตียงเป็นเวลานาน
การรักษาที่ล่าช้าจะส่งผลให้ผู้ป่วยนอนติดเตียง และเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆตามมา เช่น แผลกดทับ ติดเชื้อทางเดินหายใจ ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และลิ่มเลือดอุดตันที่ขา ซึ่งภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต
เป้าหมายหลักของการรักษาในผู้ป่วยกลุ่มนี้ คือ ทำให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตได้เหมือนปกติก่อนที่จะเกิดกระดูกหัก รักษาภาวะกระดูกพรุน และป้องกันการล้มซ้ำในอนาคต