กล่องเสียงอักเสบ เส้นเสียงบวม เสียงแหบ มีสาเหตุจากอะไร วิธีรักษากล่องเสียงอักเสบ - Laryngitis: What Is It, Symptoms, Causes and Treatment

กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis)

กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) ภายในกล่องเสียงของคนเราจะมีเส้นเสียงที่เปิดปิดได้ เมื่ออากาศผ่านเส้นเสียงจะเกิดการสั่นสะเทือน เกิดเป็นเสียงพูด เมื่อกล่องเสียงติดเชื้อ ระคายเคือง หรือมีการใช้เสียงมากเกินไป จะทำให้เส้นเสียงบวม เสียงแหบ

แชร์

เลือกหัวข้อที่อ่าน


กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) คืออะไร?

กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) ภายในกล่องเสียงของคนเราจะมีเส้นเสียงที่เปิดปิดได้ เมื่ออากาศผ่านเส้นเสียงจะเกิดการสั่นสะเทือน เกิดเป็นเสียงพูด เมื่อกล่องเสียงติดเชื้อ ระคายเคือง หรือมีการใช้เสียงมากเกินไป จะทำให้เส้นเสียงบวม เสียงแหบ เสียงหาย การติดเชื้อไวรัสไข้หวัดอาจทำให้กล่องเสียงอักเสบเฉียบพลันได้เช่นกัน 

กล่องเสียง (Larynx) คืออะไร?

กล่องเสียง (Larynx) เป็นอวัยวะที่อยู่ใต้คอหอย เหนือหลอดลม ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้อาหารหลุดเข้าไปในหลอดลม และจำเป็นต่อการสร้างเสียงพูด หากเกิดการติดเชื้อที่กล่องเสียงหรือใช้เสียงมากเกินไป อาจทำให้กล่องเสียงอักเสบ

กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) รูปแสดงจากเปล่งเสียง

เราพูดได้อย่างไร?

เสียงเกิดจากการที่อากาศจากปอดผ่านไปยังหลอดลมและกล่องเสียง ทำให้เส้นเสียงสั่นสะเทือนจนเกิดเป็นเสียง กล้ามเนื้อที่ควบคุมเพดานปาก ลิ้น และริมฝีปากจะแปลงเสียงให้เป็นคำที่เราพูด

กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) รูปเส้นเสียงเปิดและปิด

เส้นเสียงเปิดและปิด

เส้นเสียงเปิดเมื่อเราหายใจและปิดเพื่อสร้างเสียงโดยการสั่นสะเทือน

กล่องเสียงอักเสบต่างจากคออักเสบอย่างไร?

คออักเสบ คือ การที่คอหอยอักเสบ โดยคอหอยเป็นอวัยวะที่อยู่หลังโพรงจมูกยาวไปจนถึงกล่องเสียง  กล่องเสียงอักเสบคือการอักเสบของกล่องเสียงซึ่งอยู่ติดกับคอหอย เหนือหลอดลม

กล่องเสียงอักเสบ มีอาการอย่างไร?

เมื่อกล่องเสียงอักเสบ ผู้ป่วยมักมีอาการเสียงแหบ เสียงหาย คอแห้ง ไอแห้ง คันคอ โดยกล่องเสียงอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสมักดีขึ้นและหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพราะอาจมีสาเหตุมาจากโรคที่ร้ายแรงกว่าการติดเชื้อไวรัส

เมื่อมีอาการกล่องเสียงอักเสบ ควรไปพบแพทย์เมื่อไร?

ควรรีบไปพบแพทย์หากมีไข้นานไม่หาย หายใจลำบาก รู้สึกเจ็บคอมากกว่าเดิม ไอเป็นเลือด หากบุตรหลานหายใจมีเสียงหวีด น้ำลายไหลมากขึ้น กลืนหรือหายใจลำบาก มีไข้ ควรรีบไปพบแพทย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้เป็นข้อบ่งชี้ของการอักเสบเฉียบพลันบริเวณกล่องเสียงและหลอดลมใหญ่ (Croup) และฝาปิดกล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน (Epiglottitis) การอักเสบเฉียบพลันบริเวณกล่องเสียงและหลอดลมใหญ่ที่ไม่รุนแรงอาจดูแลรักษาให้หายได้เองที่บ้าน แต่ถ้ามีอาการรุนแรงจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และภาวะฝาปิดกล่องเสียงอักเสบเฉียบพลันเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

กล่องเสียงอักเสบ มีสาเหตุเกิดจากอะไร?

  • กล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน สามารถหายได้เอง มักมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสไข้หวัด การใช้เสียงมากหรือตะโกน กล่องเสียงอักเสบเฉียบพลันจากการติดเชื้อแบคทีเรียนั้นพบได้น้อย
  • กล่องเสียงอักเสบเรื้อรัง คือการที่กล่องเสียงอักเสบนานกว่า 3 สัปดาห์ โดยอาจเกิดจากการสัมผัสกับสารระคายเคือง เช่น ควันบุหรี่ สารก่อภูมิแพ้ และไอจากสารเคมี โรคกรดไหลย้อน โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก การสูบบุหรี่ และการใช้เสียงดังเป็นประจำ เช่น นักร้องหรือเชียร์ลีดเดอร์ สาเหตุอื่น ๆ ที่พบได้น้อยกว่า ได้แก่ การติดเชื้อรา แบคทีเรีย และปรสิต อาการอักเสบเรื้อรังอาจส่งผลให้เกิดติ่งเนื้อหรือก้อนเนื้อที่เส้นเสียง 

นอกจากนี้อาการเสียงแหบเรื้อรังอาจเป็นผลมาจากการที่สายเสียงโก่งตัว มะเร็ง เส้นเสียงเป็นอัมพาตจากการที่เส้นประสาทได้รับบาดเจ็บซึ่งอาจเกิดจากมะเร็ง ความผิดปกติของระบบประสาท การได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกหรือคอ และการผ่าตัดบริเวณลำคอ

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้กล่องเสียงอักเสบคืออะไร?

การอักเสบของกล่องเสียงเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นในผู้ที่ต้องตะโกนหรือตะเบ็งเสียง สูบบุหรี่หรือสัมผัสกับควันบุหรี่มือสองเป็นประจำ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือมีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ เช่น ไซนัสอักเสบหรือหลอดลมอักเสบ นอกจากนี้ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องหรืออ่อนแอ ผู้ที่ใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดสูดยังมีความเสี่ยงที่จะเป็น กล่องเสียงอักเสบจากเชื้อรา

กล่องเสียงอักเสบ มีการตรวจวินิจฉัยอย่างไร?

  • การซักประวัติและตรวจร่างกาย
  • การส่องกล้องตรวจกล่องเสียง Laryngoscopy
    แพทย์จะทำการตรวจเส้นเสียงโดยการส่องไฟฉายและใช้กระจกขนาดเล็กตรวจดูด้านในลำคอหรือใช้การตรวจด้วยกล้อง Fiberoptic Laryngoscope โดยแพทย์จะสอดกล้องผ่านทางจมูกหรือปากไปยังลำคอ เพื่อตรวจดูการเคลื่อนไหวของเส้นเสียงขณะพูด
  • การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
    หากพบรอยโรคที่น่าสงสัย แพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์

กล่องเสียงอักเสบ มีวิธีการรักษาอย่างไร?

  • ยาปฏิชีวนะ: ส่วนใหญ่แล้วกล่องเสียงอักเสบ มักมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส แต่ถ้าการอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ
  • ยาคอร์ติสเตียรอยด์: ยาคอร์ติสเตียรอยด์ สามารถลดอาการอักเสบที่เส้นเสียง และมักใช้ลดอาการอักเสบที่เส้นเสียงในเด็กที่มีการอักเสบเฉียบพลันบริเวณกล่องเสียงและหลอดลมใหญ่ (Croup)
  • การฝึกการใช้เสียง: การฝึกการใช้เสียง (Voice therapy) เพื่อปรับการใช้เสียงในชีวิตประจำวัน ช่วยลดความเสี่ยงที่กล่องเสียงจะอักเสบ
  • การผ่าตัด: แพทย์อาจแนะนำการผ่าตัดในผู้ป่วยบางราย

เมื่อกล่องเสียงอักเสบ ควรวิธีการดูแลรักษาตัวเองที่บ้านอย่างไร?

  • ดื่มน้ำมาก ๆ งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
  • กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ อมยาอม เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อให้คอชุ่มชื้น
  • ใช้เครื่องสร้างความชื้นที่บ้านหรือที่ทำงาน 
  • สูดไอน้ำขณะอาบน้ำอุ่น หรือเทน้ำร้อนลงในภาชนะแล้วสูดไอน้ำ
  • งดพูดคุยหรือร้องเพลงเสียงดัง ควรใช้ไมโครโฟน หรือโทรโข่งเมื่อต้องพูดต่อหน้าคนจำนวนมาก 
  • หลีกเลี่ยงการกระซิบเพราะทำให้เส้นเสียงทำงานหนักขึ้น
  • หลีกเลี่ยงยาแก้คัดจมูกเพราะทำให้คอแห้ง

วิธีป้องกันกล่องเสียงอักเสบ มีกี่วิธี อะไรบ้าง?

  • เลิกสูบบุหรี่และอยู่ห่างจากควันบุหรี่มือสอง
  • ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ อาหารที่มีกากใยสูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผักและผลไม้จะช่วยให้เยื่อบุในลำคอแข็งแรง
  • หลีกเลี่ยงการกระแอมในลำคอ เพราะอาจทำให้เส้นเสียงสั่นผิดปกติ บวม และระคายเคืองคอมากขึ้น
  • งดการรับประทานอาหารรสเผ็ดซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคกรดไหลย้อน
  • ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ
  • ล้างมืออย่างถูกวิธี การล้างมือช่วยลดการสัมผัสกับเชื้อโรค เช่น เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้หวัด
  • อยู่ห่างจากผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ

ควรเตรียมตัวก่อนพบแพทย์เพื่อรักษากล่องเสียงอักเสบอย่างไร?

  • จดอาการที่มี เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงในชีวิตเมื่อไม่นานมานี้ ความเครียด รายชื่อยา และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กำลังรับประทาน
  • จดคำถามที่ต้องการถามแพทย์
    ยกตัวอย่าง เช่น 
    • สาเหตุของอาการคืออะไร
    • จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
    • ควรรักษาด้วยวิธีใด
    • จะจัดการโรคประจำตัวที่มีอยู่ได้อย่างไร
    • มีข้อจำกัดที่ต้องปฏิบัติตามบ้างหรือไม่
  • เตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่แพทย์อาจจะถาม
    ยกตัวอย่าง เช่น 
    • เริ่มมีอาการเมื่อไร
    • มีอาการตลอดเวลาหรือเป็นช่วง ๆ 
    • อะไรที่ให้อาการดีขึ้นหรือแย่ลง 
    • เมื่อไม่นานมานี้ป่วยเป็นไข้หวัดหรือไม่
    • เมื่อไม่นานมานี้ต้องพูดเสียงดัง ตะโกน หรือร้องเพลงบ้างหรือไม่
    • สูบบุหรี่หรือไม่
    • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำหรือไม่

คำแนะนำจากแพทย์โรงพยาบาลเมดพาร์ค

กล่องเสียงอักเสบ สามารถหายได้เอง แต่ถ้าเจ็บคอมากหรืออาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาอย่างเหมาะสม

บทความโดย

เผยแพร่เมื่อ: 19 เม.ย. 2024

แชร์

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

  • Link to doctor
    ดร.พญ. จิรดา ศรีเงิน

    ดร.พญ. จิรดา ศรีเงิน

    • ประสาทวิทยา
    • เวชศาสตร์การนอนหลับ
    • โรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ
    เวชศาสตร์การนอนหลับ, โรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ
  • Link to doctor
    พญ. ฐาปนี สมบูรณ์

    พญ. ฐาปนี สมบูรณ์

    • ประสาทวิทยา
    • โรคลมชัก
    • เวชศาสตร์การนอนหลับ
    โรคลมชักและการผ่าตัดโรคลมชัก, โรคความผิดปกติระหว่างการนอนหลับ
  • Link to doctor
    ผศ.นพ. จิรยศ จินตนาดิลก

    ผศ.นพ. จิรยศ จินตนาดิลก

    • อายุรศาสตร์
    • เวชศาสตร์การนอนหลับ
    • เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
    • อายุรศาสตร์โรคปอด
    เวชศาสตร์การนอนหลับ, อายุรศาสตร์โรคปอด, อายุรกรรมผู้สูงอายุ, อายุรกรรมทั่วไป
  • Link to doctor
    นพ. วรการ วิไลชนม์

    นพ. วรการ วิไลชนม์

    • อายุรศาสตร์
    • อายุรศาสตร์ภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ
    • อายุรศาสตร์เวชบำบัดวิกฤต
    • อายุรศาสตร์โรคปอด
    เวชศาสตร์การนอนหลับ, กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน, โรคหอบหืดและไอเรื้อรัง, เครื่องช่วยหายใจ, วัณโรค