เลือกหัวข้อที่อ่าน

• ทำไมต้องรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ NightLase
• เลเซอร์รักษานอนกรน เหมาะกับใคร
• การวินิจฉัยก่อนรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ มีวิธีการอย่างไร
• เลเซอร์รักษานอนกรน มีขั้นตอนอย่างไร
• เลเซอร์รักษานอนกรน มีผลข้างเคียงหรือไม่
• เลเซอร์รักษานอนกรน NightLase มีข้อดีอย่างไร
• แบบทดสอบภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

เลเซอร์รักษานอนกรน (Laser Snoring Treatment)

เลเซอร์รักษานอนกรน (Laser snoring treatment) คือ หนึ่งในวิธีการรักษาอาการนอนกรนโดยการใช้เลเซอร์ชนิดเออร์เบียม (Er: YAG laser) ยิงไปยังอวัยวะภายในช่องปาก บริเวณเพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้นไก่ และโคนลิ้น เพื่อให้เกิดความร้อนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อยกระชับเข้ากับเพดานอ่อนและผนังคอหอย ช่วยเปิดทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น ช่วยกระชับเนื้อเยื่อช่องคอไม่ให้หย่อนลงมาปิดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ ช่วยลดอาการนอนกรน และลดความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น เลเซอร์รักษานอนกรน เป็นการรักษาที่สะดวก ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีความเจ็บปวด ใช้ระยะเวลาในการรักษาสั้นเพียง 30 นาทีโดยไม่ต้องนอน รพ. และสามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังการรักษาเสร็จสิ้น

ทำไมต้องรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ NightLase

เลเซอร์รักษานอนกรน NightLase เป็นวิธีการรักษาอาการนอนกรน และผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นระดับเล็กน้อย-ปานกลางที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีความเจ็บปวด และไม่มีการฝังหรือนำอุปกรณ์การแพทย์ใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย  ใช้ระยะเวลาในการรักษาสั้นเพียง 30 นาที และสามารถเห็นผลการรักษาของอาการนอนกรนที่ลดลง เสียงนอนกรนที่เบาลง รู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นนอน และช่วยให้ความสัมพันธ์ของคู่รักดีขึ้น

การนอนกรน มีผลข้างเคียงอย่างไร

การนอนกรนส่งผลกระทบโดยตรงต่อคู่นอนหรือคู่สามีภรรยาที่นอนใกล้กัน และรวมถึงบุคคลในครอบครัว เสียงนอนกรนอาจทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักตึงเครียดและสั่นคลอน และอาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพอีกหลายประการตามมา เช่น 

• ขาดสมาธิ หลงลืมง่าย
• นอนไม่อิ่ม ไม่สดชื่นตอนตื่นนอน
• ง่วงนอนระหว่างวัน
• ปวดหัวตอนเช้า
• ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่รถบนท้องถนนที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากอาการเหนื่อยล้า
• หย่อนสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย
• ภาวะซึมเศร้า
• ความดันโลหิตสูง
• โรคหัวใจและหลอดเลือด 
• เป็นหนึ่งในอาการของผู้ที่เป็นโรคหัวใจวายหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน และโรคหลอดเลือดสมอง

เลเซอร์รักษานอนกรน เหมาะกับใคร

• ผู้ที่มีอาการนอนกรนเป็นประจำ นอนกรนเสียงดัง ต้องการลดอาการนอนกรนและเสียงนอนกรนให้เบาลง
• ผู้ที่มีผลตรวจการนอนหลับว่าเป็นผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นระดับเล็กน้อย-ปานกลาง
• ผู้ที่นอนกรนเนื่องจากเนื้อเยื่อเพดานอ่อนหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อย-ปานกลางลงไปปิดกั้นทำให้ช่องคอตีบแคบจากการตรวจประเมินโดยแพทย์
• ผู้ที่แพทย์แนะนำให้รักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นด้วยเลเซอร์นอนกรน ร่วมกับเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก CPAP และ/หรือ ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ

เลเซอร์รักษานอนกรน ไม่เหมาะกับใคร

• ผู้ที่มีต่อมทอนซิลขนาดใหญ่มากกว่า 50%
• ผู้ที่มีลิ้นใหญ่และหย่อนลงไปปิดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ
• ผู้ที่มีเนื้อเยื่อลำคอตั้งแต่ระดับหลังเพดานอ่อน ลงไปจนถึงกล่องเสียงหย่อนคล้อย ซึ่งเลเซอร์ไม่สามารถเข้าถึงได้
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว  เช่น เยื่อบุจมูกอักเสบเรื้อรัง ริดสีดวงจมูก ภูมิแพ้ เนื้องอกทางเดินหายใจส่วนบน หรือโรคอ้วน
• ผู้ที่มีความผิดปกติทางกายวิภาคศาสตร์ เช่น จมูกคด คางสั้น ลิ้นไก่ยาว

การวินิจฉัยก่อนรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ มีวิธีการอย่างไร

แพทย์เฉพาะทางด้านการนอนหลับ และ/หรือโสต ศอ นาสิกแพทย์จะตรวจวินิจฉัยอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น โดยการซักประวัติสอบถามอาการ ตรวจร่างกายเบี้องต้น และรวมถึงการตรวจเฉพาะทาง ดังนี้

การซักประวัติ

• ประวัติทางการแพทย์ โรคประจำตัวและยารักษาโรคประจำตัว
• สอบถามคู่สมรส หรือคู่นอน หากมีประวัตินอนกรนเสียงดัง หายใจไม่สม่ำเสมอ หายใจทางปาก หายใจเฮือกขณะหลับ หายใจดังวี้ด หยุดหายใจขณะหลับ สะดุ้งตื่นและสูดหายใจเข้าอย่างเต็มแรง รวมถึงท่าทางการนอนที่ยิ่งทำให้กรนเสียงดัง
• มีอาการตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น ง่วงนอนระหว่างวัน มีปัญหาเรื่องความจำและสมาธิ

การตรวจเฉพาะทาง

ตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อหาความผิดปกติของร่างกายระหว่างการนอนหลับ เช่น การนอนกรน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น หรือความผิดปกติอื่น ๆ เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของอาการ และนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่ตรงจุด

การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์

การตรวจ CT scan หรือ MRI ในผู้ที่สงสัยว่ามีความผิดปกติทางกายวิภาคศาสตร์ร่วมด้วย โดยรวมถึงระบบทางเดินหายใจส่วนบน จมูก กล้ามเนื้อช่องคอ ลิ้นไก่ รอบคอ คาง และโครงสร้างใบหน้า

เลเซอร์รักษานอนกรน มีขั้นตอนอย่างไร

การรักษาอาการนอนกรนด้วยเลเซอร์รักษานอนกรน รพ. เมดพาร์ค ใช้เลเซอร์ NightLase เลเซอร์ชนิดเออร์เบียมประสิทธิภาพสูงที่มีความปลอดภัยในการรักษา ด้วยมาตรฐานสากล (Gold standard) โดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญในการรักษาผู้ที่มีอาการนอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและผลสำเร็จในการรักษาเป็นสำคัญ เพื่อช่วยให้ผู้รับการรักษาสามารถลดอาการนอนกรน และลดความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น

ภาพจาก: www.fotona.com

การเตรียมตัวก่อนการรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ NightLase

• แพทย์จะนำผลตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) หรือผล CT scan หรือผล MRI มาวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล
• ป้องกันตนเองไม่ให้มีแผลในปาก ไข้หวัด โรคในช่องปากหรือโรคในระบบทางเดินหายใจ ในวันที่เข้ามาทำการรักษาด้วยเลเซอร์
• ไม่ต้องงดน้ำและอาหารก่อนการรักษาแต่อย่างใด
• เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ช่วยฝึกการหายใจทางปากและจมูกในขณะอ้าปาก ก่อนทำหัตถการ

ขั้นตอนการรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ NightLase

• เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพช่องปากและอวัยวะภายในที่เป็นสาเหตุอาการนอนกรนเพื่อกำหนดเป้าหมายที่จะยิงเลเซอร์
• กำหนดตำแหน่งที่จะยิงเลเซอร์ โดยไม่ต้องให้ยาชา ยาสลบ หรือยาเคมีใด ๆ ก่อนการรักษา
• แพทย์ยิงเลเซอร์ NightLase เลเซอร์ชนิดเออร์เบียม (Er: YAG laser) ที่ถูกตั้งค่าในโหมด smooth ไปยังอวัยวะที่ได้มีการกำหนดตำแหน่งเอาไว้ เช่น เนื้อเยื่อช่องคอ ผนังคอด้านหน้า ผนังคอด้านหลัง เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้นไก่ หรือโคนลิ้น เพื่อสร้างความร้อน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งมีคุณสมบัติทำให้เนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อย หดตัว กระชับ ช่วยเปิดทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น โล่งโปร่งสบายขึ้น ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น ลดอาการนอนกรน ลดความดังของเสียงนอนกรนขณะนอนหลับ โดยในระหว่างการยิงเลเซอร์จะรู้สึกอุ่น ๆ ในช่องปาก
• แพทย์จะให้ผู้รับการรักษาพักกรามจากการอ้าปากค้างเป็นเวลานาน โดยการให้ผ่อนคลายและจิบน้ำเป็นระยะ เพื่อป้องกันอาการคอแห้งและปากแห้งในระหว่างการยิงเลเซอร์ และทำการรักษาต่อจนเสร็จโดยจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 30 นาที

ขั้นตอนหลังการรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ NightLase

• ดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง 1 แก้ว ทันทีหลังการรักษาแต่ละรอบเสร็จสิ้น
• แพทย์จะทำนัดเพื่อยิงเลเซอร์ซ้ำทั้งหมดประมาณ 3 รอบ ห่างจากรอบแรก 2 และ 6 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
• งดการทานอาหารรสจัด อาหารเผ็ดจัด ร้อนจัด หรือเย็นจัด 1 สัปดาห์
• ผู้รับการรักษาควรมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยอาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ

การดูแลตนเองเพื่อช่วยลดอาการนอนกรน

• ลดน้ำหนักเพื่อช่วยลดการสะสมของไขมันบริเวณเนื้อเยื่อด้านหลังลำคอ
• ออกกำลังกายเพื่อควบคุมน้ำหนัก และกระชับกล้ามเนื้อลำคอ
• เลิกบุหรี่ ควันบุหรี่ทำให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุจมูกและลำคอ ส่งผลให้เกิดการปิดกั้นของทางเดินหายใจ
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลัง
• ทานอาหารเย็นก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
• หลีกเลี่ยงการใช้ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท และยาแก้แพ้ก่อนเข้านอน
• เลือกท่านอนตะแคง แทนท่านอนหงาย และเลือกหมอนสูงจากที่นอนประมาณ 4 นิ้ว

เลเซอร์รักษานอนกรน มีผลข้างเคียงหรือไม่

การรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์เป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยและไม่พบผลข้างเคียงรุนแรงแต่อย่างใด โดยหลังการรักษา ผู้รับการรักษาสามารถพูดคุย ทานอาหาร และดื่มน้ำตามที่แพทย์แนะนำได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ผู้รับการรักษาจำนวนน้อยมากที่อาจมีอาการเจ็บคอ คอแห้งในวันรุ่งขึ้น หรือมีแผลร้อนใน การดื่มน้ำในปริมาณที่พอเพียงจะช่วยให้อาการต่าง ๆ ค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไป ในบางราย อาจมีการรับรู้ความรู้สึกในช่องปากผิดแปลกไป โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์

เลเซอร์รักษานอนกรน ใช้เวลารักษาเท่าไหร่

เลเซอร์รักษานอนกรน ใช้ระยะเวลาในการยิงเลเซอร์ประมาณ 30 นาทีต่อครั้ง โดยแพทย์จะทำนัดทั้งหมด 3 ครั้ง นัดครั้งที่สองห่างจากนัดครั้งแรก 2 สัปดาห์ และนัดครั้งที่สาม ห่างจากนัดครั้งที่สอง 4 สัปดาห์ รวมระยะเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ โดยสามารถคงผลการรักษาได้ถึง 1 ปี หรือมากกว่า ในบางรายอาจมีความจำเป็นต้องทำซ้ำ เมื่อเริ่มมีการหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อตามการลดลงของคอลลาเจนในร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น

เลเซอร์รักษานอนกรน มีอัตราความสำเร็จอย่างไร

จากผลการสำรวจผู้ที่รักษานอนกรนด้วยเลเซอร์นอนกรน NightLase ที่ทำการรักษาไปแล้ว 3 ปี พบว่าร้อยละ 85 รู้สึกพึงพอใจในผลการรักษาเป็นอย่างดี อาการนอนกรนลดน้อยลงอย่างมาก เสียงนอนกรนเบาลงอย่างชัดเจน และอาการสำลักขณะนอนหลับลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงอาการปากแห้งคอแห้งในตอนเช้าลดลงเช่นกัน และจากผลการสำรวจผู้ที่รับการรักษาด้วยเลเซอร์นอนกรน NightLase ไปแล้ว 24 เดือน พบว่าร้อยละ 72 มีผลการรักษาที่ดีดังเดิม

เลเซอร์รักษานอนกรน NightLase มีข้อดีอย่างไร

• ไม่ต้องผ่าตัด (No surgery): เลเซอร์นอนกรน NightLase เป็นการรักษาอาการนอนกรนที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเปิด ไม่มีการใช้ยาชาหรือยาสลบ ไม่มีการสอดใส่อุปกรณ์การแพทย์ใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย และไม่ต้องนอน รพ.
• รวดเร็ว (Fast): การรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ NightLase ใช้เวลาในการรักษาสั้นเพียง 30 นาทีต่อรอบรวม 3 นัดหมายภายในระยะเวลา 6 สัปดาห์ โดยเป็นการรักษาแบบผู้ป่วยนอกที่ไม่ต้องนอน รพ. และสามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังรักษาเสร็จ
• ปลอดภัย (Safe): เลเซอร์รักษานอนกรน NightLase ใช้เลเซอร์ชนิดเออร์เบียมที่ได้รับการรับรองจาก FDA หรือองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาว่ามีความปลอดภัย ลดผลข้างเคียง ลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อโดยรอบ และช่วยให้ฟื้นฟูได้เร็ว
• เห็นผลไว (Effective): เลเซอร์รักษานอนกรน NightLase เป็นการรักษาที่เห็นผลลัพธ์หลังการรักษาไว โดยหลังการรักษา สามารถสัมผัสได้ถึงอาการนอนกรนที่น้อยลง เสียงนอนกรนที่เบาลง และหายใจขณะหลับได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเลเซอร์ไปแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งผิวหนังได้รับการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างเต็มที่
• ไม่เจ็บ (Painless): เลเซอร์รักษานอนกรน NightLase เป็นการรักษาที่ไม่มีความเจ็บปวด และไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงแต่อย่างใด โดยอาจทำให้มีอาการปากแห้ง หรือคอแห้งเพียงเล็กน้อย โดยอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น เมื่อดื่มน้ำให้เพียงพอหลังการรักษา 
• ช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวดีขึ้น (Improve an erection): ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นในเพศชาย ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนขณะหลับไม่เต็มที่ ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า และส่งผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายรวมถึงสมรรถภาพทางเพศ เลเซอร์รักษานอนกรน NightLase ช่วยเปิดขยายทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนขณะหลับได้เต็มที่ และช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวดีพร้อมสู้ศึก
• รักษาชีวิตคู่ (Save relationship): เสียงนอนกรนที่ดังตลอดคืน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสัมพันธ์ของชีวิตคู่และทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักสั่นคลอน การรักษาด้วยเลเซอร์ NightLase ช่วยลดเสียงนอนกรนลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คู่รักหลับใกล้กันได้สนิท ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน และช่วยรักษาความสัมพันธ์ให้ยั่งยืน

รักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ NightLase รพ. เมดพาร์ค

ศูนย์ผิวหนัง ความงาม และเส้นผม รพ. เมดพาร์ค กรุงเทพ ประเทศไทย นำโดยทีมแพทย์ และศัลยแพทย์ผิวหนังผู้ชำนาญการเฉพาะทางที่มีประสบการณ์และความพร้อมในการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคและความผิดปกติของผิวหนังทุกชนิด อาการนอนกรน หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นด้วยวิธีการผ่าตัดและไม่ผ่าตัดโดยการใช้เลเซอร์ประสิทธิภาพสูง NightLase เพื่อรักษา ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์และอุปกรณ์อันทันสมัยมาตรฐาน FDA ที่มีความปลอดภัย ผสานด้วยเทคนิคการรักษาเฉพาะทางขั้นสูงที่มีความรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยรักษาอาการนอนกรน หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นระดับเล็กน้อย-ปานกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้การติดตามประเมินผลหลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยคงผลการรักษาที่ดีในระยะยาว ช่วยให้ผู้รับการรักษามีอาการนอนกรนที่ลดน้อยลง ช่วยให้รู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นนอน และมีสุขภาพกายและใจที่ดี