ภาวะกระดูกสันหลังคดในเด็กและวัยรุ่น
ภาวะกระดูกสันหลังคด เป็นภาวะที่กระดูกสันหลังมีการคดเอียงออกทางด้านข้างตั้งแต่ 10 องศาขึ้นไป มักพบมากในช่วงวัยรุ่น และเกิดในเพศหญิงมากกว่าเพศชายในอัตราส่วน 10:1 โดยร้อยละ 80 ของภาวะนี้ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดได้แน่ชัด อย่างไรก็ตามในบางกรณีสามารถพบได้ในผู้ป่วยที่มีภาวะสมองพิการหรือในผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทและกล้ามเนื้อผิดปกติ
โดยทั่วไปภาวะดังกล่าวผู้ป่วยมักไม่มีอาการ แต่ในบางกรณีอาจส่งผลให้เกิดปัญหาที่ร้ายแรงตามมาได้ ยกตัวอย่างเช่น หากมีความคดเอียงของกระดูกสันหลังมากกว่า 60 องศาขึ้นไป จะส่งผลให้ขนาดช่องว่างภายในทรวงอกลดลง ทำให้ปอดไม่สามารถขยายตัวได้เต็มที่ เกิดอาการหายใจลำบากหรือหายใจไม่อิ่ม และหากความคดเอียงนั้นมากกว่า 90 องศา จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลวได้
โดยปกติ ศัลยแพทย์กระดูกสันหลังจะทำการเฝ้าสังเกตอาการของเด็กที่มีภาวะดังกล่าว โดยการดูภาพถ่ายเอกซเรย์ เพื่อติดตามความคดเอียงว่ามีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ หากมีความคดเอียงที่เพิ่มมากขึ้น แพทย์อาจทำการรักษาโดยการให้ผู้ป่วยใส่อุปกรณ์พยุงหลังเพื่อป้องกันการคดเอียงที่มากขึ้น แต่หากพบว่าความคดเอียงของกระดูกสันหลังเป็นมากขึ้น อาจพิจารณาทำการรักษาโดยการผ่าตัดเพื่อยับยั้งความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้
อาการกระดูกสันหลังคดในเด็กและวัยรุ่น
- ไหล่สองข้างไม่เท่ากัน
- สะบักข้างหนึ่งนูนกว่าอีกข้างหนึ่ง
- บั้นเอวหรือสะโพกเอียงไม่เท่ากัน
- หลังด้านหนึ่งนูนขึ้นมากกว่าอีกด้านหนึ่ง เมื่อทำการก้มตัวไปด้านหน้า
เมื่อไหร่ที่ควรมาพบแพทย์
ผู้ป่วยควรมาพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจยืนยันภาวะดังกล่าวและเข้ารับการรักษาเมื่อพบว่ามีลักษณะทางร่างกายที่สังเกตได้ถึงความผิดปกติดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
สาเหตุการเกิดกระดูกสันหลังคดในเด็กและวัยรุ่น
ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุที่แท้จริงของภาวะนี้ได้ แต่มักพบว่าอาจมีความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรม เนื่องจากสามารถส่งต่อรุ่นสู่รุ่นได้ นอกจากนี้กลุ่มโรคบางชนิดอาจทำให้เกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน ได้แก่
- ความผิดปกติของระบบประสาทกล้ามเนื้อบางประการ เช่น ภาวะสมองพิการ หรือโรคกล้ามเนื้อเสื่อม
- ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด เป็นผลให้การเจริญเติบโตของกระดูกสันหลังผิดปกติ
- การผ่าตัดทรวงอกตั้งแต่ยังเป็นทารก
- การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังหรือการติดเชื้อก่อนหน้านี้
- ความผิดปกติของไขสันหลัง
ภาวะแทรกซ้อน
- ภาวะการหายใจลำบาก - เนื่องจากกระดูกสันหลังที่คดมากกว่า 60 องศา จะส่งผลทำให้ช่องว่างภายในทรวงอกลดน้อยลง ทำให้ปอดไม่สามารถขยายตัวได้อย่างเต็มที่
- อาการปวดหลังเรื้อรัง - สำหรับคนที่มีอาการในวัยเด็กมักจะส่งผลต่ออาการเรื้อรังเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบุคคลดังกล่าวไม่ได้เข้ารับการรักษา หรือพบว่าความคดเอียงมากผิดปกติ
- ความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง - กระดูกสันหลังคดจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่ออาการเริ่มรุนแรงมากขึ้น เช่น สะโพก หัวไหล่ไม่สมดุล อาการซี่โครงยื่นออกมาด้านหน้า เอวและลำตัวเอียงออกด้านข้าง ผู้ป่วยที่เป็นภาวะกระดูกสันหลังคดมักมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างของตัวเอง
การวินิจฉัยภาวะกระดูกสันหลังคดในเด็กและวัยรุ่น
แพทย์จะทำการซักประวัติโดยละเอียด และในการตรวจร่างกายจะให้ผู้ป่วยยืนหันหลังและก้มตัวไปด้านหน้าโดยปล่อยมือทิ้งลงอิสระ เพื่อเปรียบเทียบความนูนของสะบักและซี่โครงทั้งสองด้าน ทั้งนี้แพทย์อาจทำการตรวจระบบประสาทเพื่อหาความผิดปกติที่เกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อกล้ามเนื้อ หรือตรวจปฏิกิริยาตอบสนองซึ่งอาจพบความผิดปกติได้
การวินิจฉัยด้วยภาพถ่ายเอกเรย์
การเอกซเรย์โดยทั่วไปสามารถช่วยในการวินิจฉัยภาวะดังกล่าวได้ และยังสามารถบ่งบอกถึงความรุนแรงของภาวะนี้ได้ นอกจากนี้เมื่อตรวจพบภาวะดังกล่าว แพทย์อาจทำการส่งตรวจเพิ่มเติมด้วยการตรวจทางภาพถ่ายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความคมชัดสูง (Magnetic Resonance Imaging; MRI) เพื่อหาสาเหตุการเกิดภาวะดังกล่าว
การรักษาภาวะกระดูกสันหลังคดในเด็กและวัยรุ่น
แนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค หากผู้ป่วยมีภาวะกระดูกสันหลังคดเอียงเล็กน้อยมักไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา โดยแพทย์จะนัดติดตามอาการเป็นระยะจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่เกิดความคดเอียงที่มากขึ้น แต่หากพบว่ามีความคดเอียงที่มากขึ้น แพทย์อาจพิจารณาทำการรักษาโดยการแนะนำให้ผู้ป่วยใส่อุปกรณ์พยุงหลังเพื่อไม่ให้มีการคดเอียงที่มากขึ้น แต่หากพบว่าความคดเอียงดังกล่าวส่งผลให้เกิดการทุพพลภาพในอนาคตต่อตัวผู้ป่วย แพทย์อาจพิจารณาทำการรักษาโดยการผ่าตัดเพื่อหยุดยั้งความคดเอียงนั้นๆก่อนที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนในอนาคตได้
ปัจจัยในการพิจารณาแนวทางการรักษา
- ช่วงอายุของการเจริญเติบโตของกระดูก - หากพบว่ากระดูกสันหลังอยู่ในวัยที่หยุดการเจริญเติบโตแล้ว ความเสี่ยงในการเกิดการคดเอียงที่มากขึ้นลดน้อยลง
- องศาหรือระดับความคดเอียง
- เพศ - เด็กผู้หญิงจะมีความเสี่ยงของความรุนแรงโรคมากกว่าเด็กผู้ชาย
การใช้อุปกรณ์พยุงหลัง
แพทย์อาจเสนอแนวทางการใช้เครื่องพยุงหลังหากพบว่ากระดูกของผู้ป่วยยังอยู่ในช่วงของการเจริญเติบโต และมีอาการที่มีความรุนแรงระดับปานกลาง โดยการใช้อุปกรณ์จะไม่ได้ช่วยในการรักษาแต่สามารถช่วยให้อาการไม่ทรุดลงกว่าเดิม โดยส่วนมากมักทำจากวัสดุพลาสติก และสามารถดัดแปลงให้เข้ากับสัดส่วนรูปร่างได้ โดยจะไม่ปรากฏเมื่อสวมใส่เสื้อผ้า อุปกรณ์จะทำการรัดบริเวณใต้วงแขน ซี่โครง หลังส่วนล่าง และสะโพก และต้องใส่เป็นเวลาประมาณ 20-23 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเด็กที่สวมใส่อุปกรณ์พยุงหลังจะสามารถร่วมกิจกรรมต่างๆได้อย่างปกติ โดยสามารถสวมใส่ได้เมื่อจะทำการเล่นกีฬา หรือการทำกิจกรรมอื่นๆ
การใช้อุปกรณ์พยุงหลังจะสิ้นสุดเมื่อเด็กหยุดการเจริญเติบโต โดยเด็กผู้หญิงมักหยุดการเจริญเติบโตเมื่ออายุ 14 และเด็กผู้ชายเมื่ออายุ 16 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การผ่าตัดแก้ไขภาวะกระดูกสันหลังคด
การผ่าตัดมีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งการคดเอียงที่มากขึ้น ตลอดจนทำการยืดกระดูกสันหลังที่คดออกให้ใกล้เคียงกับลักษณะทางกายวิภาคปกติของกระดูกสันหลัง โดยในปัจจุบันมีวิธีการผ่าตัดเพื่อแก้ไขภาวะนี้ได้ดังนี้
- การผ่าตัดแก้ไขภาวะกระดูกสันหลังคด โดยการใช้แท่งโลหะชนิดพิเศษที่สามารถยืดขยายได้ - หากตรวจพบว่ากระดูกสันหลังมีความคดเอียงมากตั้งแต่วัยเด็กเล็ก ศัลยแพทย์กระดูกสันหลังจะทำการรักษาโดยการผ่าตัดดามแท่งโลหะชนิดพิเศษตามแนวกระดูกสันหลัง ซึ่งแท่งโลหะชนิดพิเศษนี้สามารถปรับยืดขยายได้ การรักษาวิธีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กระดูกสันหลังที่คดเอียงนั้นมีการเจริญเติบโตไปตามแนวของแท่งโลหะที่ดามไว้ ทำให้สามารถแก้ไขภาวะคดเอียงของกระดูกสันหลังไปพร้อมๆกับให้มีการเจริญเติบโตของกระดูกสันหลังควบคู่กันได้
- การผ่าตัดแก้ไขภาวะกระดูกสันหลังคด แบบการเชื่อมข้อกระดูกสันหลัง - ศัลยแพทย์กระดูกสันหลังจะทำการผ่าตัดแก้ไขความคดเอียงและทำการเชื่อมข้อกระดูกเข้าด้วยกันหลังจากทำการแก้ไขความคดเอียงนั้นแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังกลับมาคดเอียงอีกภายหลังจากเข้ารับการผ่าตัดแล้ว
- การผ่าตัดแก้ไขกระดูกสันหลังคดแบบการไม่เชื่อมข้อกระดูกสันหลัง - ศัลยแพทย์กระดูกสันหลังจะทำการเปิดผิวหนังเป็นรอยแผลขนาดเล็กบริเวณด้านข้างลำตัว และทำการใส่สกรูผ่านทางรอยแผลเปิดนั้นๆ จากนั้นจะทำการใส่สายเคเบิลที่มีความยืดหยุ่นและความแข็งแรงสูงที่บริเวณสกรูที่ได้ใส่ไว้เบื้องต้น เพื่อขึงให้กระดูกที่คดเอียงนั้นกลับมาอยู่ในลักษณะตรงใกล้เคียงกับปกติ วิธีนี้จะไม่เสียความสามารถของข้อต่อกระดูกสันหลังภายหลังจากการผ่าตัด
ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และเคล็ดลับการดูแลตนเอง
ยังไม่พบว่ามีกิจกรรมใดที่เป็นสาเหตุ หรือสามารถช่วยทำให้กระดูกสันหลังคดหายได้ โดยผู้ป่วยที่มีความผิดปกติดังกล่าวยังสามารถทำกิจวัตรต่างๆรวมถึงการออกกำลังกายได้ตามปกติ
การรับมือและช่วยเหลือคนไข้กระดูกสันหลังคด
การรับมือกับภาวะกระดูกสันหลังคดอาจกระทำได้ยากในช่วงวัยรุ่น ซึ่งช่วงอายุดังกล่าว โดยปกติก็จะต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและทางด้านอารมณ์อยู่แล้ว ส่งผลทำให้มีความรู้สึกไม่มั่นใจและมีความกลัวต่อความผิดปกติดังกล่าวได้
ทั้งนี้หากวัยรุ่นมีความรู้สึกไม่มั่นใจหรือมีความกลัวต่อการใช้ชีวิตจากการมีกระดูกสันหลังที่คดเอียง ควรเข้าร่วมการบำบัดรักษาแบบกลุ่ม เพื่อช่วยในการทำใจยอมรับโรคที่เกิดขึ้น การใช้อุปกรณ์พยุงหลัง หรือการผ่าตัดรักษาต่อไป ควรผลักดันให้เด็กมีความกล้าที่จะพูดกับเพื่อนๆ หรือหาความช่วยเหลืออื่น ๆ
การเตรียมตัวก่อนการพบแพทย์
โรงเรียนหลายแห่งมีกระบวนการตรวจเบื้อง่ต้นเพื่อค้นหาภาวะกระดูกสันหลังคด หากพบความผิดปกติดังกล่าว ควรพามาพบแพทย์เพื่อให้ทำการตรวจยืนยันหากสงสัยภาวะดังกล่าว
วิธีเตรียมตัวก่อนการนัดหมาย
- จดรายละเอียดอาการของเด็ก
- จดข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาทางการแพทย์ของเด็กที่ผ่านมา
- จดข้อมูลเกี่ยวกับประวัติภาวะทางการแพทย์ของครอบครัว
- จดคำถามที่จะถามแพทย์
สิ่งที่คาดหวังได้จากการพบแพทย์
คำถามสำคัญที่แพทย์อาจถาม มีดังต่อไปนี้
- ผู้ปกครองสังเกตเห็นความผิดปกติดังกล่าวตอนที่ผู้ป่วยอายุเท่าใด
- ภาวะดังกล่าวก่อให้เกิดความเจ็บปวดต่อผู้ป่วยหรือไม่
- ภาวะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการหายใจของผู้ปวยหรือไม่
- มีคนในครอบครัวที่ประสบปัญหาภาวะกระดูกสันหลังคดหรือไม่
- ผู้ป่วยมีลักษณะของภาวะกระดูกสันหลังคดเอียงมากขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาหรือไม่
- ประวัติประจำเดือนครั้งแรกของผู้ป่วย (ทำนายความคดเอียงที่อาจเกิดมากขึ้นในอนาคตได้)