เลือกหัวข้อที่อ่าน
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด คืออะไร
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีอาการอย่างไรบ้าง
- ควรไปพบแพทย์เมื่อไร
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีสาเหตุจากอะไร
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดจากอะไร
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีวิธีการตรวจวินิจฉัยอย่างไร
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีวิธีการรักษาอย่างไร
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด เกิดจากการที่ลิ่มเลือดไปอุดกั้นการไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดแดงในปอด โดยมักมีสาเหตุมาจากการที่ลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำลึกที่ขาหลุดและไหลไปตามกระแสเลือดจนไปอุดกั้นที่ปอด ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดถือว่าเป็นภาวะที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต การได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดโอกาสในการเสียชีวิตได้ และการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดได้
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีอาการอย่างไร
- หายใจหอบเหนื่อย
- เจ็บหน้าอก ซึ่งอาการแย่ลงเมื่อหายใจเข้าลึก ๆ
- ไอเป็นเลือด
- เสียวแปลบที่หน้าอก คอ กราม ไหล่ และแขน
- ผิวซีด ตัวเขียว
- หัวใจเต้นเร็ว
- เหงื่อออกมาก
- หายใจมีเสียงหวีด
- เวียนศีรษะ
- เป็นลมหมดสติ
ควรพบแพทย์เมื่อไร
ควรไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการหายใจไม่ทัน เจ็บหน้าอก หมดสติแบบไม่มีสาเหตุ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดเป็นภาวะที่อันตรายรุนแรงแต่รักษาได้ การได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีสาเหตุจากอะไร
- เลือดคั่งที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย มักจะเป็นที่แขนหรือขา เกิดจากการที่ไม่ขยับอวัยวะส่วนนั้นเป็นเวลานานเนื่องจากการผ่าตัดหรือการนอนพักบนเตียงเป็นเวลานาน
- เส้นเลือดดำได้รับความเสียหายจากการที่กระดูกสะโพก อุ้งเชิงกราน หัวเข่า หรือขาหัก หรือการได้รับการผ่าตัดที่อวัยวะดังกล่าว
- โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะหัวใจล้มเหลว และภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว
- ปัจจัยที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดมากขึ้นจากมะเร็งบางชนิด ฮอร์โมนบำบัด หรือยาคุมกำเนิด
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดจากอะไร
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก
- เส้นเลือดดำได้รับความเสียหายจากการผ่าตัด กระดูกหัก หรือเส้นเลือดขอด
- การใช้ยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนทดแทน
- การสูบบุหรี่
- ค่าดัชนีมวลกายสูงกว่า 25
- การตั้งครรภ์ การคลอดบุตรในระยะ 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา
- การใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางทางแขนหรือขา
- การนั่งหรือไม่ขยับร่างกายเป็นเวลานาน
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง
ภาวะความดันหลอดเลือดแดงในปอดสูงและภาวะความดันหลอดเลือดแดงในปอดสูงเรื้อรังหากลิ่มเลือดค้างอยู่ในปอดและส่งผลทำให้เกิดพังผืดในเส้นเลือดแดงในปอด
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีวิธีการตรวจวินิฉัยอย่างไร
การตรวจวินิจฉัยภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดนั้นอาจทำได้ยาก โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคหัวใจและปอด
- การตรวจเลือด: การตรวจเลือดช่วยทำให้ทราบถึงระดับ D-dimer ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการสลายตัวของละลายลิ่มเลือด หากค่า D-dimer สูงขึ้นนั้นเป็นข้อบ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีลิ่มเลือดอุดตัน การตรวจเลือดยังสามารถตรวจระดับออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดได้ หากมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด ระดับออกซิเจนจะน้อยลง นอกจากนี้การตรวจเลือดยังช่วยทำให้ทราบว่าผู้ป่วยมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือไม่
- การเอกซเรย์ทรวงอก ช่วยในการตัดสาเหตุอื่น ๆ ของอาการออกไป
- การตรวจด้วยเครื่อง Duplex Ultrasounds : เป็นการใช้คลื่นเสียงตรวจหลอดเลือดเพื่อหาลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำลึกในหัวเข่า ต้นขา น่อง และแขน
- การทำ CT Scan หลอดเลือดในปอด (CT pulmonary angiography): การถ่ายภาพหลอดเลือดในปอดด้วย CT Scan เป็นการสร้างภาพ 3 มิติเพื่อหาจุดที่มีลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดปอด
- การตรวจ Ventilation-perfusion (V/Q) scan: การตรวจวิธีนี้ช่วยประเมินโอกาสที่จะเกิดภาวะความดันหลอดเลือดแดงในปอดสูง โดยระหว่างการตรวจแพทย์จะฉีดสารกัมมันตภาพรังสีเข้าไปในหลอดเลือดดำที่แขนเพื่อประเมินการไหลเวียนของเลือดและปริมาณอากาศในปอด
- การฉีดสีเพื่อตรวจหลอดเลือดปอด (Pulmonary angiogram): เป็นการตรวจที่มีความแม่นยำที่สุดในการตรวจวินิจฉัยภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด แต่เนื่องจากความซับซ้อนและความเสี่ยง แพทย์มักจะตรวจด้วยวิธีนี้ในกรณีที่การตรวจด้วยวิธีอื่นไม่ให้ผลที่แน่ชัด โดยระหว่างการตรวจ แพทย์จะใส่สายสวนเข้าไปยังหลอดเลือดดำใหญ่บริเวณขาหนีบ แล้วสวนผ่านหัวใจไปยังหลอดเลือดปอด จากนั้นจะฉีดสารทึบรังสีเข้าไปในสายสวน และตรวจเอกซเรย์เพื่อตรวจดูทิศทางของสารทึบรังสีในหลอดเลือดแดงปอด ผู้ป่วยบางรายอาจมีการเต้นของหัวใจเปลี่ยนไประหว่างการตรวจ และสารทึบรังสีอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ไตจะได้รับความเสียหายในผู้ที่ไตทำงานไม่ปกติ
- การตรวจ MRI: การตรวจ MRI เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องไตหรือผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับรังสี เช่น สตรีตั้งครรภ์
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด มีวิธีการรักษาอย่างไร
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: ยาต้านการแข็งตัวของเลือดช่วยลดการแข็งตัวของเลือด ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด โดยชนิดของยา ระยะเวลาที่ต้องรับประทาน และความถี่ในการนัดพบแพทย์เพื่อติดตามอาการขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย ระหว่างที่รักษาด้วยการรับประทานยาอยู่นั้นแพทย์อาจให้เข้ารับการตรวจวัดการแข็งตัวของเลือด (Prothrombin Time Test) เพื่อดูระยะเวลาที่เลือดเริ่มแข็งตัว ช่วยให้แพทย์ประเมินปริมาณยาที่ผู้ป่วยควรรับประทานได้อย่างเหมาะสม
- ถุงน่องประคองหลอดเลือดดำ (Compression Stockings): ถุงน่องประคองหลอดเลือดดำเป็นถุงน่องทางการแพทย์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือดที่ขา ป้องกันการสะสมของเลือดที่บริเวณดังกล่าว ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการใช้ ระยะเวลาที่ต้องสวมใส่ถุงน่อง และการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
- ยาละลายลิ่มเลือด: ยาละลายลิ่มเลือด เช่น Tissue Plasminogen Activator มักใช้ในการรักษาผู้ป่วยในหอผู้ป่วยวิกฤติภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยจะให้ในผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำหรืออาการไม่ทรงตัวเนื่องจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด ผลข้างเคียงของยาได้แก่ภาวะเลือดออก
เราจะป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดได้อย่างไร
- การป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดเลือดดำในขาสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดได้
- รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ซึ่งแพทย์มักแนะนำในผู้ที่มีความเสี่ยงที่เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันทั้งก่อนและหลังผ่าตัด ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
- สวมใส่ถุงน่องประคองหลอดเลือดดำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่ขา
- ใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า pneumatic compression เพื่อนวดและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่ขา
- นั่งหรือนอนยกขาสูงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที การยกขาสูงระหว่างการนอนหลับมีประสิทธิภาพในการป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน ทั้งนี้ผู้ป่วยอาจสอดไม้หรือหนังสือใต้ขาที่นอนเพื่อยกที่นอนให้สูงขึ้น 4-6 นิ้ว
- พยายามขยับตัวอยู่เสมอ ไม่นั่งหรืออยู่ในท่าเดิมนาน ๆ การขยับร่างกายหรือลุกเดินหลังผ่าตัดจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดได้ดีและทำให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
- จำกัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เลิกสูบบุหรี่
- ลดน้ำหนักและรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนพบแพทย์
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดนั้นมักเป็นภาวะฉุกเฉิน หากมีอาการหรือคิดว่ามีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด ควรรีบพบแพทย์โดยทันที
ก่อนไปพบแพทย์ ผู้ป่วยควรจดบันทึกอาการที่มี โรคประจำตัว อาการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยเมื่อไม่นานมานี้ ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กำลังรับประทานอยู่ การเดินทางที่ต้องนั่งรถหรือเครื่องบินเป็นเวลานาน ประวัติการเจ็บป่วยของคนในครอบครัว รวมถึงคำถามที่ต้องการถามแพทย์
คำแนะนำจากแพทย์โรงพยาบาลเมดพาร์ค
หากเริ่มสังเกตว่ามีอาการของภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด ควรรีบเข้ารับการตรวจวินิจฉัยอย่างเหมาะสม เพราะภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดสามารถรักษาให้หายได้หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที