เลือกหัวข้อที่อ่าน
- อาการพังผืดในปอด เป็นอย่างไร?
- พังผืดในปอด เกิดจากสาเหตุอะไร?
- วิธีการตรวจวินิจฉัยพังผืดในปอด มีกี่วิธี?
- การรักษาพังผืดในปอด มีวิธีการรักษาอย่างไร?
- ปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตและการรักษาตัวที่บ้าน
- คำถามที่ถามบ่อย
พังผืดในปอด
โรคพังผืดในปอด (Pulmonary Fibrosis) คือโรคทางเดินหายใจ ซึ่งเนื้อเยื่อปอดที่อยู่ระหว่างถุงลมปอดเกิดเป็นแผล จนเนื้อเยื่อดังกล่าวหนาและแข็งตัว ทำให้ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผ่านออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดได้ไม่เพียงพอ ปัจจัยที่ทำให้ปอดได้รับความเสียหายนั้น ได้แก่ การสัมผัสกับสารพิษบางอย่าง โรคบางโรค รังสีรักษา หรือยาบางชนิด
ความเสียหายของปอดที่เกิดจากโรคพังผืดในปอดไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แต่การรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ สามารถช่วยให้ผู้ป่วยจัดการกับอาการและส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ ยาและการบำบัดสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ในผู้ป่วยบางราย แต่ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องทำการปลูกถ่ายปอด
อาการพังผืดในปอด เป็นอย่างไร?
- หายใจเร็วและสั้น
- ไอแห้งติดต่อกันเป็นเวลานาน
- รู้สึกเหนื่อยมากเวลากลางวัน
- หายใจหอบเหนื่อยระหว่างหรือหลังออกกำลังกาย
- น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
หากอาการแย่ลง ผู้ป่วยอาจมีอาการนิ้วมือนิ้วเท้าปุ้มและอาการตัวเขียว เนื่องจากปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำ
พังผืดในปอด เกิดจากสาเหตุอะไร?
- การสัมผัสกับสารพิษและมลพิษ เช่น ผงถ่านหิน ฝุ่นข้าว แร่ใยหิน ฝุ่นหิน มูลสัตว์ในสภาพแวดล้อมหรือที่ทำงาน
- รังสีรักษาสำหรับมะเร็งปอดหรือมะเร็งเต้านม โดยขอบเขตความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับชนิดของโรคปอด ปริมาณเนื้อปอดที่สัมผัสกับรังสี ปริมาณรังสีที่ใช้ และมีการใช้เคมีบำบัดร่วมด้วยหรือไม่
- ยาเคมีบำบัด เช่น ยา methotrexate และยา cyclophosphamide
- ยาสำหรับโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น ยา amiodarone
- ยาปฏิชีวนะ เช่น ยา nitrofurantoin
- ยาต้านการอักเสบ เช่น ยา rituximab และยา sulfasalazine
- โรคต่าง ๆ เช่น โรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ โรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพันผสม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคปอดอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ โรคซาร์คอยโดซิส โรคหนังแข็ง โรคลูปัส
พังผืดในปอดบางชนิด เป็นโรคที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ ซึ่งอาจเกิดจากการสัมผัสกับเชื้อไวรัส ยาสูบ หรือเป็นโรคทางพันธุกรรม จากการวิจัยโรคกรดไหลย้อนอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โรคพังผืดในปอดแย่ลงอย่างรวดเร็ว แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาถึงความเกี่ยวข้องกับโรคนี้เพิ่มเติม
ปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้างที่ทำให้เกิดพังผืดในปอด?
- อายุ ผู้ใหญ่วัยกลางคนและผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคพังผืดในปอดมากกว่า
- เพศ เพศชายมีความเสี่ยงมากกว่าเพศหญิง
- การสูบบุหรี่ ผู้ที่สูบหรี่หรือเคยสูบบุหรี่ ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองมีความเสี่ยงมากกว่า
- การสัมผัสกับมลพิษจากที่ทำงาน เช่น การทำเหมือง การทำฟาร์ม หรือการก่อสร้าง
- วิธีการรักษามะเร็งบางชนิด เช่น รังสีรักษา เคมีบำบัด
- ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม โรคพังผืดในปอดบางชนิดอาจส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้
วิธีการตรวจวินิจฉัยพังผืดในปอด มีกี่วิธี?
- การซักประวัติและการตรวจร่างกาย
- แพทย์จะดูประวัติสุขภาพของผู้ป่วยและประวัติสุขภาพของครอบครัว และทำการสอบถามอาการ พร้อมกับฟังเสียงปอดขณะผู้ป่วยกำลังหายใจ
- การตรวจเลือด
- การตรวจเลือดช่วยประเมินการทำงานของตับและไต และตัดโรคอื่น ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของอาการได้
- การตรวจวินิจฉัยด้วยภาพถ่าย
- การเอกซเรย์ปอด เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นว่ามีความผิดปกติของเนื้อปอดหรือไม่
- การตรวจวินิจฉัยด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) เพื่อดูขอบเขตความเสียหายของปอด ช่วยติดตามอาการและประเมินว่าอาการตอบสนองต่อการรักษาหรือไม่
- การตรวจหัวใจด้วยเครื่องสะท้อนเสียงความถี่สูง (Echocardiogram) เพื่อประเมินแรงดันในหัวใจห้องล่างขวา ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคพังผืดในปอด
- การตรวจสมรรถภาพปอด
- การตรวจสมรรถภาพปอด (PFT) เช่น การตรวจวัดปริมาตรของอากาศที่หายใจเข้าและออกจากปอด (spirometry) การตรวจวัดหาความสามารถในการแลกเปลี่ยนก๊าซในปอดและวัดปริมาตรปอด
- การวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (Pulse oximetry) เพื่อวัดปริมาณออกซิเจนที่ไหลเวียนในเลือดด้วยการใช้เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว
- การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการออกกำลังกาย (Exercise stress test) เพื่อดูการทำงานของปอดและหัวใจ
- การตรวจก๊าซจากหลอดเลือดแดง (Arterial blood gas test)
- การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ
- การตัดชิ้นเนื้อโดยการส่องกล้องระบบทางเดินหายใจ
- การตัดชิ้นเนื้อโดยการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดปอดโดยวิธีการส่องกล้องแผลเล็ก (VATS) หรือ การผ่าตัดเปิดทรวงอก
การรักษาพังผืดในปอด มีวิธีการรักษาอย่างไร?
โรคพังผืดในปอด เป็นโรคที่เป็นแล้วจะเป็นถาวร แต่การเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการทำงานของปอดได้
- ยา เช่น ยา pirfenidone และ ยา nintedanib เป็นยาต้านพังผืด ช่วยชะลอการเกิดพังผืดและการเกิดรอยแผลเป็นในปอด
- ออกซิเจนบำบัด จะช่วยเพิ่มระดับออกซิเจน บรรเทาอาการหายใจหอบเหนื่อยและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย
- การฟื้นฟูสมรรถภาพปอด ช่วยลดอาการเหนื่อยและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
- การปลูกถ่ายปอด
ภาวะแทรกซ้อนเมื่อเป็นพังผืดในปอด
ภาวะความดันหลอดเลือดแดงในปอดสูง เกิดขึ้นจากพังผืดในปอดส่งผลให้หลอดเลือดแดงปอดมีขนาดเล็กลง ทำให้เกิดแรงต้านของหลอดเลือดในปอดและแรงกดในหัวใจห้องขวาล่างเพิ่มขึ้น ภาวะความดันหลอดเลือดแดงในปอดสูงบางประเภท อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
- โรคหัวใจเพราะปอด เกิดขึ้นจากการที่หัวใจห้องล่างขวาต้องออกแรงสูบฉีดเลือดมากเป็นเวลานาน ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้
- ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว เนื่องจากระดับออกซิเจนที่ต่ำมากจนเป็นอันตราย เป็นระยะสุดท้ายของโรคปอดเรื้อรัง
- ปอดติดเชื้อ
- ลิ่มเลือดอุดตันในปอด
- ปอดแฟบหรือลรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด
- มะเร็งปอด
การปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตและการรักษาตัวที่บ้าน
- เลิกสูบบุหรี่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ได้รับพลังงานเพียงพอ เพราะผู้ป่วยโรคพังผืดในปอดมักจะน้ำหนักตัวลดลง พยายามรับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ 6 มื้อ แทนการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ 3 มื้อ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ปอดแข็งแรงและลดความเครียด
- พักผ่อนอย่างเพียงพอ
- เข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ หรือปอดบวม
- ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำและแผนการรักษาของแพทย์
การเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
จดคำตอบสำหรับคำถามที่แพทย์อาจถาม เช่น
- สังเกตเห็นอาการครั้งแรกเมื่อไร
- มีอาการอะไรบ้าง
- มีโรคประจำตัว เช่น ข้ออักเสบมาก่อนหรือเปล่า
- ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา รับประทานยาหรืออาหารเสริมบ้างหรือไม่
- เคยทำงานในสถานที่ที่มีฝุ่นเยอะหรือไม่
- สูบบุหรี่เป็นประจำหรือไม่
- มีคนในครอบครัวเป็นโรคปอดเรื้อรังหรือไม่
- เคยเข้ารับการรักษาด้วยรังสีรักษาหรือเคมีบำบัดหรือไม่
แนะนำให้พาเพื่อนหรือคนในครอบครัวไปด้วย เพื่อช่วยจำข้อมูลและเป็นที่พึ่งทางจิตใจ เนื่องจากโรคพังผืดในปอดเป็นโรคที่ร้ายแรงและมีความซับซ้อน
คำถามที่ถามบ่อย
- โรคพังผืดในปอดกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังต่างกันอย่างไร?
ทั้งโรคพังผืดในปอดกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เป็นโรคร้ายแรงที่ทำให้หายใจได้ลำบากและอาการจะแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป
โรคพังผืดในปอด เกิดจากการสะสมของเนื้อเยื่อที่เป็นแผลและพังผืด ทำให้หายใจได้ไม่สะดวก สาเหตุที่แท้จริงของโรคนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เกิดจากการระคายเคืองและอักเสบของหลอดลมและถุงลมปอด ทำให้หายใจลำบากและมีเสมหะอุดกั้นในหลอดลม โรคหอบหืดและการสัมผัสกับมลพิษในปริมาณมากจะเพิ่มความเสี่ยงของกลุ่มโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เช่น ถุงลมโป่งพองและหลอดลมอักเสบ
คำแนะนำจากแพทย์โรงพยาบาลเมดพาร์ค
ผู้ป่วยโรคพังผืดในปอด จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจกับแพทย์เป็นประจำ เพื่อติดตามอาการและผลการรักษา การใช้วิธีการรักษาหลายวิธีร่วมกันจะช่วยส่งเสริมการทำงานของปอดและคุณภาพของชีวิต