โรคงูสวัด ไวรัสตัวร้ายกับผู้สูงอายุ
โรคงูสวัดคืออะไร?
โรคงูสวัด เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ (VZR) ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกันกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส โรคงูสวัดเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกวัย แต่ความเสี่ยงในการเกิดโรคจะเพิ่มมากขึ้นในผู้สูงอายุ การมีอายุที่มากยังจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคงูสวัดอีกด้วย
หลังจากเกิดโรคอีสุกอีใสและอาการของโรคหายดีแล้ว ไวรัสตัวเดียวกันจะเข้าสู่ระบบประสาทและสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นระยะเวลาหลายปีโดยไม่แสดงออกถึงอาการใดๆ หากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราเกิดอ่อนแอลง จะส่งผลให้ไวรัสเกิดปฏิกิริยาที่ตอบสนองต่อร่างกายอีกครั้ง ทำให้เกิดโรคงูสวัดในที่สุด โรคงูสวัดจะเกิดกับกลุ่มเสี่ยงยยกตัวอย่างเช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอ ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองอย่างโรคเอสแอลอี และผู้ทีติดเชื้อเอชไอวี นอกจากนี้โรคงูสวัดสามารถเกิดได้กับกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ ผู้ทีทำการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคไต
ลักษณะอาการของโรคงูสวัด
เมื่อติดเชื้องูสวัด ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน ถึงแม้ผิวจะสัมผัสเสื้อผ้าหรือสัมผัสกับผิวหนังเพียงเล็กน้อยก็จะส่งผลให้เกิดอาการปวด และจะเริ่มเกิดผื่นหลังจากระยะเวลา 2-3 วัน และจะกลายเป็นตุ่มพองคล้ายอีสุกอีใส โรคงูสวัดมีความแตกต่างจากอาการของโรคอีสุกอีใสเพราะจะไม่มีการแพร่เชื้อไปทั่วร่างกาย แต่จะเกิดตุ่มบริเวณผิวหนังโดยจะเกิดตุ่มพองรอบๆบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ หลังจากนั้นแผลจะเริ่มแห้งและกลายเป็นสะเก็ด ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการไข้หรือมีอาการของไข้หวัดร่วมด้วย
ภาวะแทรกซ้อนของโรคงูสวัด
ภาวะแทรกซ้อนจากโรคงูสวัดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่มักจะเกิดกับผู้สูงอายุและผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- อาการปวดเส้นประสาท คืออาการปวดที่กินระยะเวลานานกว่าสามเดือน โดยเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพบได้บ่อยที่สุด อาการปวดจะเกิดขึ้นบริเวณผิวหนังทีเป็นผื่น โดยระดับความรุนแรงของอาการจะเริ่มจากน้อยจนถึงรุนแรง โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน อาการปวดเส้นประสาทเกิดขึ้นกับร้อยละ 10-15 ต่อประชากร และเกินครึ่งของจำนวนนี้เป็นผุ้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
- การติดเชื้อที่ผิวหนัง แผลที่ผิวหนังที่เกิดจากโรคงูสวัดอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อด้วยบคทีเรีย ซึ่งทำให้การรักษาเกิดการล่าช้า ภาวะแทรกซ้อนทางตา
- ภาวะแทรกซ้อนทางตา เกิดกับร้อยละ 2 ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยเกิดจากการที่ผื่นเกิดขึ้นบริเวณผิวหนังใกล้ดวงตา (เป็นอีกหนึ่งภาวะแทรกซ้อนจากโรคงูสวัดที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อจอประสาทตา)
- ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นที่หู ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นที่หูประกอบไปด้วยการติดเชื้อจากโรคงูสวัดที่เกิดขึ้นที่หู หรือโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม โดยอาการของโรคคือเกิดใบหน้าเบี้ยวและปวดหู
การรักษา และแนวทางการรักษาโรคงูสวัด มีดังนี้
- ยาต้านไวรัส – ยาชนิดนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดและลดอาการอักเสบ รวมถึงลดการเกิดตุ่มพอง
ยาอื่นๆที่แพทย์จะทำการสั่งจ่ายให้ผู้ป่วย มีดังนี้
- ยาแก้ปวด
- ยาแก้แพ้
- ยาปฏิชีวนะ
การป้องกันและคำแนะนำจากแพทย์
ในขณะนี้ในประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดสำหรับผู้ใหญ่ โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป การฉีดวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคงูสวัด หากผู้ป่วยได้รับเชื้องูสวัดกรวัคซีนสามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการได้ นอกจากนั้นวัคซีนยังควรทำการฉีดให้กับคนที่อายุไม่ถึง 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรังหรือมีโรคอื่นๆที่่ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ