เลือกหัวข้อที่อ่าน
- SPECT CT ทำงานอย่างไร
- SPECT CT ตรวจโรคอะไร
- ขั้นตอนการตรวจ SPECT CT
- ข้อดีของการตรวจ SPECT CT
- การตรวจ SPECT CT รพ. เมดพาร์ค
SPECT CT เวชศาสตร์นิวเคลียร์ ตรวจวินิจฉัยโรค
SPECT CT คือ การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์เพื่อวินิจฉัยโรคโดยการใช้เทคโนโลยีร่วมระหว่างเครื่อง SPECT และ CT พร้อมกับการใช้สารเภสัชรังสี ตรวจจับการทำงานของอวัยวะและหาความผิดปกติในร่างกายระดับเซลล์ เช่น ตรวจการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงหัวใจ ตรวจการทำงานของสมองเป็นปกติหรือไม่ หรือตรวจมะเร็งที่แพร่กระจายมาที่กระดูก เครื่อง SPECT CT สามารถหมุนได้รอบ 360 องศา ให้รายละเอียดภาพคมชัดแบบ 3 มิติ ช่วยให้เห็นความผิดปกติได้ง่าย สามารถแปรผลได้ถูกต้อง และใช้ระยะเวลาในการตรวจเพียง 30 นาที SPECT CT สามารถวินิจฉัยมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม ตรวจหาระยะมะเร็งได้อย่างรวดเร็ว และสามารถตรวจการกระจายตัวของมะเร็งได้อย่างแม่นยำ ใช้รังสีน้อย และมีความปลอดภัยสูง
SPECT CT ทำงานอย่างไร
เครื่อง SPECT CT ให้ภาพที่มีรายละเอียดสูงโดยการรวมภาพจาก 2 โหมดการทำงานเข้าด้วยกัน ระหว่างภาพข้อมูลการทำงานของร่างกายจากเครื่อง SPECT และข้อมูลกายวิภาคศาสตร์จากเครื่อง CT โดยมีรายละเอียด ดังนี้
SPECT
SPECT (Single photon emission computed tomography) คือ ส่วนของเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ทำหน้าที่ถ่ายภาพรังสีแกรมมา (Gramma camera) ของสารเภสัชรังสีในร่างกาย สามารถหมุนได้รอบ 360 องศา เพื่อถ่ายภาพ 3 มิติ ทั้งแบบเฉพาะส่วนหรือทั้งตัว ทั้งในแนวกว้าง แนวยาว และแนวเฉียงตรงตำแหน่งที่สารเภสัชรังสีไปจับกับรอยโรค มะเร็ง ก้อนเนื้อ หรือความผิดปกติในการทำงานของอวัยวะร่างกาย โดยจะแสดงผลออกมาเป็นภาพเรืองแสง ช่วยให้แพทย์เห็นภาพความผิดปกติของร่างกายได้อย่างชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการแปลผลโรค ช่วยแยกรอยโรคที่มีการซ้อนทับกันได้ดี และช่วยเพิ่มความจำเพาะเจาะจงในการวินิจฉัยโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
CT
CT (Computed tomography) คือ ส่วนของเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ถ่ายภาพโครงสร้างทางกายวิภาค (Anatomy) ของร่างกายทั้งแบบเฉพาะส่วนหรือทั้งตัวผ่านการใช้รังสีเอกซ์เพื่อถ่ายภาพเก็บข้อมูล แล้วใช้ระบบเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูล สร้างเป็นภาพตัดขวางในหลาย ๆ ระดับทั้งแนวกว้าง แนวยาว และแนวเฉียง ทำให้เห็นโครงสร้างอวัยวะภายในและความผิดปกติได้อย่างชัดเจน เช่น รอยโรค มะเร็ง หรือก้อนเนื้อ ช่วยระบุตำแหน่ง ขนาด ระยะ และขอบเขตการกระจายตัวของมะเร็งได้เป็นอย่างดี
สารเภสัชรังสี (Radioactive tracers)
สารเภสัชรังสี (Radioactive tracers) คือ สารเคมีที่ติดฉลากด้วยสารกัมมันตรังสีที่มีโครงสร้างและคุณสมบัติที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้อย่างปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย โดยก่อนการตรวจ SPECT CT รังสีแพทย์จะให้สารเภสัชรังสีโดยการฉีด การกลืน หรือการสูดหายใจในปริมาณที่แตกต่างกันตามแต่ละบุคคลขึ้นอยู่ชนิดของการตรวจ โดยเมื่อสารเภสัชรังสีเข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปจับกับอวัยวะหรือเนื้อเยื่อเป้าหมายที่ต้องการตรวจ และจะค่อย ๆ แผ่รังสีแกรมมาผ่านผิวหนังออกมาให้เห็นแบบเรืองแสงในภาพวินิจฉัย ทำให้เครื่อง SPECT CT สามารถตรวจจับโรคหรือความผิดปกติของร่างกายได้โดยง่าย
เนื้องอกเน็ตแพร่กระจาย
(ภาพจาก: www.siemens-healthineers.com)
SPECT CT ตรวจโรคอะไร
รังสีแพทย์ใช้การตรวจ SPECT CT ในการตรวจดูการทำงานของอวัยวะภายใน และหาความผิดปกติในการทำงานของอวัยวะ โดย 3 อวัยวะหลักที่รังสีแพทย์ใช้การตรวจ SPECT CT ในการตรวจวินิจฉัยโรค ได้แก่
สมอง
SPECT CT ตรวจการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงสมอง ตรวจประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงหรือไม่ ตรวจหาอาการบาดเจ็บที่ขัดขวางไม่ให้เลือดไหลไปไปเลี้ยงสมอง และตรวจหาโรคระบบประสาทและสมองอื่น ๆ เช่น
- โรคลมชัก (Seizure)
- ลมบ้าหมู (Epilepsy)
- โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
- อัลไซเมอร์ (Alzheimer’ s diseases)
- โรคสมองเสื่อม (Dementia)
- ภาวะสมองบาดเจ็บ (TBIs)
- โรคโมยาโมยา (Moyamoya disease)
หัวใจ
SPECT CT ตรวจการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงหัวใจ ตรวจหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตันและบริเวณกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ตรวจหาเนื้อเยื่อแผลเป็นในกล้ามเนื้อหัวใจจากอาการหัวใจวาย ตรวจประสิทธิภาพการสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงหัวใจ ตรวจวิเคราะห์ความจำเป็นในการผ่าตัดบายพาสหัวใจ และตรวจหาโรคในระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary artery disease)
- โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis)
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Myocardial ischemia)
- ความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิต (Hemodynamic disorder)
กระดูก
SPECT CT ตรวจหาความผิดปกติของกระดูก โดยจะแสดงผลภาพแบบ “เรืองแสง” ให้เห็นออกมา ช่วยให้แพทย์พบตำแหน่งที่ผิดปกติได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โรคและความผิดปกติของกระดูก เช่น
- กระดูกแตก กระดูกหัก (Bone fractures)
- กระดูกหักล้า (Stress fractures)
- มะเร็งกระดูก (Bone cancer)
- มะเร็งที่แพร่กระจายมาที่กระดูก (Bone metastasis)
- กระดูกติดเชื้อ (Bone infections)
- ความผิดปกติของขากรรไกร (Jaw abnormalities)
กระดูกสันหลังส่วนเอว ข้อต่อสะโพก กระดูกหัวเหน่าเสื่อมสภาพ
(ภาพจาก: www.siemens-healthineers.com)
การเตรียมตัวก่อนตรวจ SPECT CT
- ไม่ต้องงดอาหารและน้ำก่อนการตรวจ
- ถอดเครื่องประดับทุกชนิดก่อนการตรวจ
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ไอโอดีน หรือสารเภสัชรังสี แจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- ผู้ที่ทานยารักษาโรคประจำตัวหรืออาหารเสริม แจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- ผู้ที่ประวัติอุบัติเหตุ กระดูกแตก กระดูกหัก หรือใส่อวัยวะเทียม แจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
ขั้นตอนการตรวจ SPECT CT
- รังสีแพทย์จะฉีดสารเภสัชรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำที่ข้อมือหรือแขน จากนั้นผู้เข้ารับการตรวจจะรอ 2-3 ชม. เพื่อให้สารเภสัชรังสีเข้าไปจับกับอวัยวะที่ผิดปกติ (ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเภสัชรังสี)
- ในระหว่างที่รอ ผู้เข้ารับการตรวจดื่มน้ำ 1-2 ลิตร เพื่อขับสารเภสัชรังสีส่วนเกินออกจากร่างกายทางปัสสาวะ เพื่อช่วยให้แพทย์มองเห็นภาพความผิดปกติได้อย่างชัดเจน
- รังสีแพทย์จะให้ผู้เข้ารับการตรวจนอนลงบนเตียงตรวจนิ่ง ๆ 20-30 นาที เครื่อง SPECT CT จะค่อย ๆ หมุนรอบ 360 องศา เพื่อจับรังสีแกรมมา (สารเภสัชรังสี) ที่ถูกขับออกมาจากภายในร่างกาย เครื่อง SPECT CT จะค่อย ๆ ถ่ายภาพรอบตัวผู้เข้ารับการตรวจ และจะเก็บข้อมูลการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ มาสร้างเป็นภาพ
- ภาพที่ได้จากเครื่อง SPECT และ CT จะถูกรวมเข้าด้วยกัน สร้างเป็นภาพชนิดใหม่แบบ 3 มิติ ที่เรียกว่า fused image ที่แสดงตำแหน่งที่มีการสะสมของสารเภสัชรังสีที่ผิดปกติแบบเรืองแสงออกมา (CT ธรรมดาจะเห็นเป็นจุดขาว-ดำ) ช่วยระบุตำแหน่งรอยโรคที่มีขนาดเล็ก มะเร็ง ก้อนเนื้อ หรืออวัยวะร่างกายที่มีการทำงานที่ผิดปกติได้อย่างชัดเจน
- การตรวจ SPECT CT โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ รังสีแพทย์อาจถ่ายภาพเฉพาะจุดเพิ่มเติมเพื่อเก็บรายละเอียด
การปฏิบัติตนหลังการตรวจ SPECT CT
- ดื่มน้ำ 1-1.5 ลิตร หลังการตรวจ 2-3 วัน เพื่อขับสารเภสัชรังสีออกจากร่างกาย
- ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับเด็กเล็ก และสตรีมีครรภ์ 24 ชม.
- สามารถทำกิจกรรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
กระดูกสแคฟฟอยด์ที่ข้อมือหัก
(ภาพจาก: www.siemens-healthineers.com)
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการตรวจ SPECT CT
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
- ผู้ที่กำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษที่มีมะเร็งไทรอยด์ร่วม
ผลข้างเคียงจากการตรวจ SPECT CT
ผลข้างเคียงทั่วไปจากการตรวจ SPECT CT ได้แก่ เลือดออก มีรอยช้ำบวมแดงที่จุดเข็มเจาะ หรืออาการแพ้สารเภสัชรังสีซึ่งพบได้น้อยมาก โดยทั่วไป การตรวจ SPECT CT ถือเป็นการตรวจวินิจฉัยโรคที่มีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย และไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ที่เป็นอันตรายในระยะยาว
ข้อดีของการตรวจ SPECT CT
- แปรผลได้ถูกต้อง (Accurate interpretation): SPECT CT ช่วยตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะ และระบบการทำงานของร่างกายที่ผิดปกติ เช่น ตรวจจับก้อนเนื้องอกที่ไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยวิธีการตรวจอื่น ๆ เช่น CT ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้แพทย์แปรผลและวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง และนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่ถูกจุด
- รุกล้ำน้อย (Minimally invasive): SPECT CT ใช้เพียงการฉีดสารเภสัชรังสีเข้าสู่ร่างกายก่อนการตรวจ ไม่มีแผลขนาดใหญ่ ไม่ต้องดมยาสลบหรือให้ยาชา เป็นการตรวจที่เจ็บน้อย มีความปลอดภัยสูง ไม่มีภาวะแทรกซ้อน หรือผลข้างเคียงรุนแรง
- แผนการรักษาเฉพาะบุคคล (Personalized treatment plan): SPECT CT ให้ผลการตรวจวินิจฉัยที่มีความชัดเจน มีความความจำเพาะเจาะจง ช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลได้อย่างเหมาะสม และนำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพได้อย่างทันท่วงที
- ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล (No overnight hospitalization): SPECT CT เป็นการตรวจแบบผู้ป่วยนอกจึงไม่ต้องนอน รพ. โดยใช้เวลาในการตรวจทั้งหมดไม่เกินครึ่งวัน และสามารถกลับบ้านไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
- ใช้ปริมาณรังสีน้อย (Low-dose radiation): SPECT CT เป็นการตรวจที่ใช้สารเภสัชรังสีในปริมาณที่น้อยกว่าการตรวจทางรังสีวินิจฉัยอื่น ๆ และยังใช้ปริมาณรังสีเอ็กซ์เทียบเท่ากับการตรวจร่างกายทั่วไป เช่น การตรวจเอ็กซ์เรย์ปอด ทำให้เป็นการตรวจที่มีความปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายใด ๆ กับผู้เข้ารับการตรวจ
SPECT CT ใช้เวลาตรวจกี่วันถึงรู้ผล
โดยทั่วไป หลังการตรวจ SPECT CT แพทย์จะใช้เวลา 2-3 วัน ถึง 1 สัปดาห์ ในการแปรผลการตรวจจึงจะแจ้งผลให้ผู้รับการตรวจทราบ โดยแพทย์จะนำผลการตรวจที่ได้ไปวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคลต่อไป
การตรวจ SPECT CT รพ. เมดพาร์ค
ศูนย์รังสีวินิจฉัย รพ.เมดพาร์ค กรุงเทพ ประเทศไทย นำโดยทีมรังสีแพทย์ระดับอาจารย์แพทย์ผู้ชำนาญการด้านรังสีร่วมรักษา รังสีรักษา รังสีวินิจฉัย และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ที่มีประสบการณ์การรักษาทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ มีความพร้อมในการตรวจวินิจฉัยโรคทั่วไปและโรคยากซับซ้อนด้วยเครื่องมือแพทย์ระบบดิจิทัลที่ทันสมัยทั้ง Digital X-ray, PET CT หรือ SPECT CT และอุปกรณ์การแพทย์ระดับมาตรฐานสากลอื่น ๆ เพื่อให้การวินิจฉัยโรคมีความถูกต้อง ช่วยให้ได้รับผลการตรวจรวดเร็ว และสามารถแปรผลได้อย่างแม่นยำ นำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างเป็นระบบ พร้อมกับทีมแพทย์ผู้ชำนาญการสหสาขาที่ร่วมกันให้การรักษาแบบองค์รวม ช่วยให้การรักษามีความรวดเร็ว ปลอดภัย สามารถให้การรักษาร่วมกันได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผู้รับการรักษาฟื้นตัวได้เร็ว มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างดี
คำถามที่พบบ่อย
- SPECT และ CT ต่างกันอย่างไร
SPECT หรือ การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ เป็นการถ่ายภาพรังสีแกรมมาของสารเภสัชรังสีในร่างกายผ่านการฉีด การกลืน หรือการสูดดมก่อนถ่ายภาพเพื่อตรวจดูทำงานของอวัยวะร่างกาย เนื้อเยื่อ การไหลเวียนโลหิต รวมถึงตรวจหามะเร็ง หรือก้อนเนื้อ โดยจะให้ภาพความผิดปกติแบบเรืองแสง
CT หรือ การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เป็นการถ่ายภาพโครงสร้างร่างกายอย่างละเอียด โดยจะแสดงขนาดและตำแหน่งของอวัยวะ กระดูก หรือเนื้อเยื่อ รวมถึงตรวจหามะเร็ง หรือก้อนเนื้อ โดยจะให้ภาพความผิดปกติเป็นจุดขาว-ดำ
รังสีแพทย์ใช้การตรวจ SPECT และ CT ร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลภาพรังสีวินิจฉัยการทำงานของร่างกายและอวัยวะที่มีความละเอียด ชัดเจน และมีความถูกต้อง
- อวัยวะอื่นๆ ที่สามารถตรวจได้ด้วย SPECT CT
- ปอด
- ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด (Pulmonary embolism)
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic obstructive pulmonary disease: COPD)
- ไต
- ตรวจการทำงานของไต
- ตรวจการอุดตันของไต
- ตรวจความผิดปกติของเนื้อเยื่อไต (Renal parenchyma)
- ตรวจการทำงานของไตหลังการผ่าตัดเปลี่ยนไต (ตรวจได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่)
- ต่อมไทรอยด์ และ ต่อมพาราไทรอยด์
- ตรวจมะเร็งไทรอยด์ (Thyroid cancer)
- ตรวจภาวะฮอร์โมนพาราไทรอยด์สูง (Hyperparathyroidism)
- ถุงน้ำดี และ ตับ
- ตรวจการทำงานของถุงน้ำดีและตับ
- ท่อน้ำดีอุดตัน
- ท่อน้ำดีรั่ว
- ความสามารถของตับในการผลิตน้ำดี
- การทำงานของถุงน้ำดีในการปล่อยน้ำดีเข้าสู่ลำไส้
- ปอด