เลือกหัวข้อที่อ่าน
- ต่อมทอนซิลอักเสบคืออะไร
- อาการทอนซิลอักเสบ
- สาเหตุที่ทอนซิลอักเสบ
- ปัจจัยเสี่ยง
- การป้องกันทอนซิลอักเสบ
- การวินิจฉัยทอนซิลอักเสบ
- การรักษาทอนซิลอักเสบ
- การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์
ทอนซิลอักเสบ
เมื่อมีอาการเจ็บคอ กลืนแล้วเจ็บ ทอนซิลบวมอักเสบ และต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอโต นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลคือต่อม 2 ต่อม มีลักษณะเป็นวงรี อยู่ตรงด้านในลำคอ
ต่อมทอนซิลอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แต่การติดเชื้อแบคทีเรียก็อาจทำให้ต่อมทอนซิลอักเสบได้เช่นกัน
การรักษาต่อมทอนซิลอักเสบนั้นต้องอาศัยการวินิจฉัยโรคเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง การผ่าตัดต่อมทอนซิลเป็นการรักษาที่นิยมทำในอดีต แต่ปัจจุบันจะทำการผ่าตัดต่อเมื่อมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบซ้ำ ๆ หรืออาการไม่ตอบสนองต่อการรักษา หรือมีโรคแทรกซ้อนรุนแรง
ลักษณะต่อมทอนซิลที่ปกติ และต่อมทอนซิลที่มีการอักเสบ
อาการต่อมทอนซิลอักเสบ
ต่อมทอนซิลอักเสบมักพบในเด็กวัยก่อนเข้าเรียนและวัยรุ่น โดยมีอาการดังนี้
- เจ็บคอ อาจปวดร้าวไปบริเวณหูได้
- กลืนลำบาก
- มีไข้
- ปวดศีรษะ
- มีกลิ่นปาก
- เสียงแหบ
- ปวดท้อง
- คอแข็ง
- ต่อมทอนซิลบวม
- มีเมือกสีขาวหรือเหลืองเคลือบต่อมทอนซิล
- ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอโต
ในเด็กที่ยังไม่สามารถอธิบายอาการของตนเองได้ ผู้ปกครองควรสังเกตอาการ ดังต่อไปนี้
- น้ำลายไหลมากผิดปกติเพราะมีปัญหาการกลืน
- ไม่รับประทานหรืออยากอาหาร
- มีอาการงอแงผิดปกติ
ควรพบแพทย์เมื่อใด
เมื่อคุณมีอาการของต่อมทอนซิลอักเสบ ควรไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องหากมีอาการต่อไปนี้
- มีอาการเจ็บคอต่อเนื่อง ไม่หายภายใน 1-2 วัน
- มีอาการเจ็บคอพร้อมเป็นไข้
- มีปัญหาการกลืน
- อ่อนเพลียและงอแงมากผิดปกติ
ควรรีบไปพบแพทย์หากท่านหายใจหรือกลืนลำบากและเริ่มมีอาการน้ำลายไหลมากผิดปกติ
สาเหตุที่ทอนซิลอักเสบ
ไวรัสเป็นสาเหตุที่มักก่อให้เกิดโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ในกรณีที่การติดเชื้อเกิดจากแบคทีเรีย สเตร็ปโตคอกคัส (ชนิดเอ) เป็นสายพันธุ์ที่มักก่อให้เกิดอาการคออักเสบ แต่แบคทีเรียหรือสเตร็ปโตคอกคัสสายพันธุ์อื่นก็อาจเป็นสาเหตุของต่อมทอนซิลอักเสบได้เช่นกัน
ทำไมต่อมทอนซิลถึงอักเสบ
ต่อมทอนซิลเป็นด่านแรกที่ป้องกันการบุกรุกของเชื้อโรคที่เข้าสู่ทางปาก การได้รับเชื้อโรคไวรัสและแบคทีเรียเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ต่อมทอนซิลอักเสบ โดยระบบภูมิคุ้มกันของต่อมทอนซิลมักจะลดลงหลังวัยเจริญพันธุ์ ทำให้ผู้ใหญ่ไม่ค่อยพบต่อมทอนซิลอักเสบ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ต่อมทอนซิลอักเสบ
- อายุ โดยทั่วไปต่อมทอนซิลอักเสบมักพบในวัยเด็กและการติดเชื้อแบคทีเรียมักเกิดในเด็กอายุ 5-15 ปี
- การสัมผัสเชื้อโรค เด็กในวัยเรียนมีแนวโน้มที่จะสัมผัสเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ทำให้ป่วย เช่น โรคต่อมทอนซิลอักเสบ เพราะมักใกล้ชิดเพื่อน
- ภาวะแทรกซ้อน ต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น
- การติดเชื้อบริเวณรอบต่อมทอนซิล
- หนองบริเวณช่องคอส่วนลึกหลังต่อมทอนซิล
- ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
- การติดเชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตคอกคัส
โอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนที่พบไม่บ่อยนั้นจะสูงขึ้นหากรับประทานยาปฏิชีวนะไม่ครบ หรือไม่รักษาต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตคอกคัสหรือสายพันธุ์อื่น ๆ
- โรคไตอักเสบเฉียบพลันจากเชื้อสเตร็ปโตคอคคัส
- Scarlet Fever
- ไข้รูมาติก (Rheumatic Fever)
- ข้ออักเสบหลังการติดเชื้อสเตร็ปโตคอคคัส
การป้องกัน
เชื้อไวรัสและแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของต่อมทอนซิลอักเสบแพร่เชื้อติดต่อกันได้ แต่สามารถป้องกันการติดต่อของโรคได้ หากท่าน
- หมั่นล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
- งดการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกันหรือแบ่งทานอาหารร่วมกัน
- เปลี่ยนแปรงสีฟันทุกครั้งหลังทราบว่าต่อมทอนซิลอักเสบ
เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น
- ควรเตือนให้ล้างมือหลังไอหรือจาม
- ให้ใช้กระดาษทิชชูป้องปิดปากเวลาไอหรือจาม
- ให้พักอยู่บ้านระหว่างเจ็บป่วย
การวินิจฉัยต่อมทอลซิลอักเสบ
การตรวจร่างกายเพื่อวินิจฉัยโรคจะทำโดยการ
- ตรวจคอด้วยอุปกรณ์พร้อมไฟส่อง พร้อมตรวจหูและจมูกเพื่อหาอาการติดเชื้อ
- ตรวจว่ามีอาการของไข้อีดำอีแดงซึ่งสัมพันธ์กับคออักเสบหรือไม่
- คลำต่อมน้ำเหลืองว่าโตหรือไม่
- ตรวจม้ามเพื่อหาสาเหตุโรคว่าเกิดจากโรคโมโนนิวคลิโอซิส ซึ่งทำให้ต่อมทอนซิลอักเสบหรือไม่
การเก็บเชื้อในลำคอ
แพทย์จะเก็บสารคัดหลั่งในลำคอ ส่งไปยังห้องแล็บเพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตคอกคัส
หากผลเป็นบวก สาเหตุของต่อมทอนซิลอักเสบมักเกิดจากแบคทีเรีย และผลจะเป็นลบหากการติดเชื้อเกิดจากเชื้อไวรัส
การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
แพทย์อาจสั่งให้ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดจากตัวอย่างเลือดของบุตรหลานของท่านเพื่อวัดจำนวนเม็ดเลือดชนิดต่าง ๆระดับของเซลล์เม็ดเลือดสามารถทำให้ทราบได้ว่าการติดเชื้อเกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรีย สำหรับการวินิจฉัยอาการคออักเสบไม่จำเป็นต้องตรวจหาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดเสมอไป แต่การตรวจช่วยให้วินิจฉัยสาเหตุของโรคได้หากผลตรวจของโรคคออักเสบเป็นลบ
การรักษาทอนซิลอักเสบ
เมื่อทอนซิลอักเสบต้องดูแลตัวเองที่บ้านอย่างไร?
การดูแลตัวเองที่บ้านช่วยบรรเทาอาการและทำให้ฟื้นตัวจากต่อมทอนซิลอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียได้เร็วขึ้น ถ้าเป็นทอนซิลอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส การดูแลตัวเองที่บ้านเป็นวิธีรักษาเพียงวิธีเดียว แพทย์จะไม่จ่ายยาปฏิชีวนะ อาการมักหายได้เองภายใน 7-10 วัน ที่บ้านผู้ปกครองควรจะดูแลดังนี้
- ดูแลให้บุตรหลานนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่
- ให้บุตรหลานดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อให้คอชุ่มชื้น
- ให้บุตรหลานรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ เช่น ซุปหรือน้ำแกงอุ่น น้ำอุ่นผสมน้ำผึ้ง หรือไอติมเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ
- ให้บุตรหลานกลั้วคอด้วยน้ำเกลือ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ ผู้ปกครองสามารถทำน้ำเกลือ โดยผสมน้ำอุ่น ประมาณ 8 ออนซ์ หรือ 1 ถ้วยกับเกลือครึ่งช้อนชา
- เปิดเครื่องทำความชื้นเพิ่มความชื้นในอากาศ อากาศแห้งทำให้คอระคายเคือง
- ระวังไม่สูดดมควันบุหรี่หรือไอจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เพราะอาจทำให้ระคายคอ
- ปรึกษาแพทย์หากต้องการรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอและไข้
ยารักษาทอนซิลอักเสบ คือยาปฏิชีวนะ
แพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะ สำหรับต่อมทอนซิลอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ควรรับประทานยาให้ครบและหมดแม้ว่าอาการจะดีขึ้นหรือหายแล้ว ต่อมทอนซิลอักเสบอาจแย่ลงหรือการติดเชื้ออาจกระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ไข้รูมาติก หรือ โรคไตอักเสบเฉียบพลันในกรณีที่ไม่รับประทานยาให้ครบทั้งหมด
การผ่าตัดต่อมทอนซิล
การผ่าตัดเป็นการรักษาโรคต่อมทอนซิลเรื้อรัง เกิดซ้ำ หรือเกิดจาการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งไม่ตอบสนองกับยาปฏิชีวนะ อาการต่อมทอนซิลอักเสบจะจัดว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นบ่อย เมื่อเกิดขึ้น
- อย่างน้อย 7 ครั้งในปีที่ผ่านมา
- อย่างน้อย 5 ครั้งต่อปีในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา
- อย่างน้อย 3 ครั้งต่อปีในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา
แพทย์จะทำการผ่าตัดเมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น
- ปัญหาการกลืน
- ปัญหาการหายใจ
- ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
- เกิดหนองจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะ
การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์
ปรึกษาแพทย์หากบุตรหลานของท่านมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบ เช่น กลืนลำบาก เจ็บคอ หรืออาการอื่น ๆ และอาจจำเป็นต้องทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมกับแพทย์ด้านโสตศอนาสิกวิทยา
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- คำถาม: ต่อมทอนซิลอักเสบ คืออะไร?
คำตอบ: ต่อมทอนซิลคือต่อม 2 ต่อม มีลักษณะเป็นวงรี อยู่ตรงด้านในลำคอ เมื่อมีอาการเจ็บคอ กลืนแล้วเจ็บ ทอนซิลบวมอักเสบ และต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอโต นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคต่อมทอนซิลอักเสบ - คำถาม: ต่อมทอนซิลอักเสบ เกิดจากอะไร?
คำตอบ: ไวรัสเป็นสาเหตุที่มักก่อให้กิดโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ในกรณีที่การติดเชื้อเกิดจากแบคทีเรีย สเตร็ปโตคอกคัส (ชนิดเอ) เป็นสายพันธุ์ที่มักก่อให้เกิดอาการคออักเสบ แต่แบคทีเรียหรือสเตร็ปโตคอกคัสสายพันธุ์อื่นก็อาจเป็นสาเหตุของต่อมทอนซิลอักเสบได้เช่นกัน - คำถาม: ทำไมต่อมทอนซิลถึงอักเสบ?
คำตอบ: ต่อมทอนซิลเป็นด่านแรกที่ป้องกันการบุกรุกของเชื้อโรคที่เข้าสู่ทางปาก การได้รับเชื้อโรคไวร้สและแบคที่เรียเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ต่อมทอนซิลอักเสบ โดยระบบภูมิคุ้มกันของต่อมทอนซิลมักจะลดลงหลังวัยเจริญพันธุ์ ทำให้ผู้ใหญ่ไม่ค่อยพบต่อมทอนซิลอักเสบ