เลือกหัวข้อที่อ่าน
- เมื่อไรที่ควรเข้ารับการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอด
- ข้อห้ามและความเสี่ยงของการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดมีอะไรบ้าง
- อัลตราซาวด์ช่องคลอด มีขั้นตอนอะไรบ้าง
อัลตราซาวด์ช่องคลอด คืออะไร
การอัลตราซาวด์ช่องคลอด (Transvaginal Ultrasound) เป็นการตรวจโดยการใช้หัวตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงขนาดเล็กสอดเข้าในช่องคลอด เพื่อสร้างภาพภายในอุ้งเชิงกราน ซึ่งรวมถึงปากมดลูก มดลูก ท่อนำไข่ และรังไข่ มีประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัยโครงสร้างอวัยวะภายในหรือตรวจหาความผิดปกติภายในอุ้งเชิงกราน นอกจากนี้การอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดยังช่วยยืนยันและติดตามการตั้งครรภ์ได้
เมื่อไรที่ควรเข้ารับการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอด
หากมีอาการปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด แพทย์อาจให้เข้ารับการอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด เพื่อดูว่ามีถุงน้ำ เนื้องอก ติ่งเนื้อ การติดเชื้อ หรือรอยโรคของมะเร็งหรือไม่ การอัลตราซาวด์ช่องคลอดยังช่วยหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก และสัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์นอกมดลูกหรือการแท้งบุตรได้อีกด้วย
ในผู้หญิงตั้งครรภ์ แพทย์จะทำการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอด ในหลายช่วงไตรมาสของการตั้งครรภ์ เพื่อช่วยเรื่องต่อไปนี้
- ตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์
- ตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์ในมดลูก และช่วยวินิจฉัยการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- ตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดเพื่อตรวจการเต้นของหัวใจของตัวอ่อน
- ตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดเพื่อตรวจปากมดลูก ค้นหาความเสี่ยงของการแท้งบุตร หรือ คลอดก่อนกำหนด
- ตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดเพื่อตรวจรกและตำแหน่งของรก เพื่อค้นหาความเสี่ยงของภาวะรกเกาะต่ำ
- ตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดเพื่อตรวจหาความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ในขณะตั้งครรภ์
ข้อห้ามและความเสี่ยงของการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดมีอะไรบ้าง
การอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดนั้นปลอดภัย เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการสร้างภาพภายในอุ้งเชิงกราน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อแม่และทารกในครรภ์ ผู้เข้ารับการตรวจบางรายอาจรู้สึกไม่สบายตัว หรือรู้สึกถึงแรงกดขณะตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอด หรืออาจมีตกขาวออกมาบ้าง แต่อาการเหล่านี้มักหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง
การอัลตราซาวด์ช่องคลอดสามารถทำได้ในระหว่างที่มีประจำเดือนหรือระหว่างตั้งครรภ์ แต่การตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดที่เรียกว่า Sonohysterography ซึ่งเป็นการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ร่วมกับฉีดของเหลวเข้าไปในโพรงมดลูกผ่านทางปากมดลูกนั้น ไม่แนะนำให้ทำในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือผู้ที่มีภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ
อัลตราซาวด์ช่องคลอด มีขั้นตอนอะไรบ้าง
ก่อนอัลตราซาวด์ช่องคลอด
ผู้เข้ารับการตรวจไม่ต้องงดน้ำหรืออาหารก่อนเข้ารับการตรวจ แต่ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ว่าควรมาถึงจุดตรวจโดยปัสสาวะทิ้งให้หมดเสียก่อน หรือให้กลั้นปัสสวะไว้จนรู้สึกปวดปัสสาวะปานกลางหรือมาก ก่อนเข้ารับการตรวจ
ระหว่างอัลตราซาวด์ช่องคลอด
ผู้เข้ารับการตรวจจะนอนหงาย โดยให้ขาทั้งสองข้างพาดขาหยั่ง แพทย์จะทำการสอดหัวตรวจ transducer ที่ถูกคลุมด้วยถุงยางอนามัยและทาเจลหล่อลื่นแล้ว เข้าไปทางช่องคลอด เพื่อถ่ายภาพของอวัยวะภายในในมุมต่าง ๆ การตรวจนี้ไม่สร้างความเจ็บปวดใด ๆ แต่ผู้เข้ารับการตรวจอาจรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยขณะที่หัวตรวจอยู่ด้านใน โดยการตรวจจะใช้เวลา 15-60 นาที ในบางรายแพทย์อาจทำการอัลตราซาวด์ช่องท้องหรือ Sonohysterography เพิ่มเติมด้วย
หลังการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอด
แพทย์จะอธิบายผลตรวจให้ผู้ป่วยทราบเพื่อวางแผนการรักษาต่อไป หากผลการตรวจนั้นไม่อาจสรุปได้ แพทย์อาจให้เข้ารับการตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดเป็นระยะ ๆ หรือตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอด
- การอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดต่างจากการอัลตราซาวด์ทางหน้าท้องอย่างไร?
การอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดสามารถถ่ายภาพอวัยวะและเนื้อเยื่อภายในอุ้งเชิงกรานได้ละเอียดกว่าการอัลตราซาวด์ทางหน้าท้อง แต่ในรายที่ไม่สามารถทำการอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดได้ เช่น หญิงตั้งครรภ์ที่รกเกาะต่ำที่มีเลือดออก ผู้ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แพทย์จะทำการอัลตราซาวด์ทางหน้าท้องหรืออัลตราซาวด์ทางทวารหนักแทน
คำแนะนำจากแพทย์โรงพยาบาลเมดพาร์ค
การอัลตราซาวด์ช่องคลอด เป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยที่มีความปลอดภัย และมีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งช่วยตรวจหาสาเหตุของปัญหาทางนรีเวชและการตั้งครรภ์ มีประโยชน์ในการวางแผนรักษาที่ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพต่อไป