ข้อเท้าพลิก ปัญหาเล็ก ๆ ที่อาจรุนแรงถึง ข้อเท้าเสื่อม
ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง การบาดเจ็บที่ดูเหมือนเป็นเรื่องทั่วไป ที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ จนหลายคนมองว่าเป็นการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทำให้หลายครั้งที่เมื่อข้อเท้าพลิก มักละเลยการปฐมพยาบาล หรือดูแลการบาดเจ็บนี้อย่างไม่ถูกต้องนัก ความจริงแล้ว ข้อเท้าพลิก สามารถก่อให้เกิดการบาดเจ็บตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรงมาก และควรได้รับการดูแลรักษาให้ถูกวิธี มิเช่นนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ถึงขั้น ข้อเท้าเสื่อม ตามมาได้
ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง ส่งผลอย่างไร?
สาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุ มักพบมากในนักกีฬา ที่ต้องใช้ข้อเท้ามาก โดยเฉพาะในกีฬาที่มีการกระแทก เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล จะทำให้ข้อเท้าพลิกได้ง่าย หรือในกลุ่มคนมีที่ภาวะข้อเท้าหลวม ก็สามารถทำให้ข้อเท้าพลิกได้ง่ายเช่นกัน สำหรับความรุนแรง จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่
- รุนแรงน้อย: เอ็นอักเสบเล็กน้อย แต่ยังไม่ฉีกขาด ปวดบวมเล็กน้อย ยังเดินได้
- รุนแรงปานกลาง: เอ็นฉีกขาดบางส่วน ปวดบวมมากขึ้น ขยับลำบาก มีปัญหาตอนลงน้ำหนัก
- รุนแรงมาก: เอ็นฉีกขาดทั้งหมด ลงน้ำหนักไม่ได้ ขยับไม่ได้ หรือเดินไม่ได้เลย
ความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับระดับของการบาดเจ็บและอุบัติเหตุ เช่น ข้อเท้าพลิกธรรมดา เจ็บนิดหน่อย จะอยู่ในระดับความรุนแรงน้อย หากข้อเท้าพลิกแรงขึ้น อาจอยู่ในระดับความรุนแรงปานกลาง เอ็นฉีกขาดบางส่วน แต่ถ้าประสบอุบัติเหตุรุนแรง เช่น ตกบันได รถมอเตอร์ไซค์ล้ม เอ็นฉีกขาดทั้งหมด ก็จะอยู่ในระดับความรุนแรงมาก
เมื่อข้อเท้าพลิก อย่าประคบผิด ๆ ถูก ๆ
สิ่งที่หลายคนพลาดกันบ่อย คือการปฐมพยาบาลเมื่อข้อเท้าพลิก โดยมักจะประคบอุ่นก่อน ซึ่งความจริงเป็นวิธีที่ผิด เพราะเมื่อบาดเจ็บ เอ็นฉีก จะมีการอักเสบ เลือดออก มีอาการบวม จึงต้องประคบเย็นเพื่อลดอาการอักเสบและบวมดังกล่าวก่อน หากประคบอุ่นแต่แรก ยิ่งกระตุ้นให้เลือดไหลเวียน บริเวณที่อักเสบก็จะยิ่งบวม
ถัดมาคือการพันผ้า ที่มักจะพันผ้ารัดแน่นจนเกินไป จะยิ่งทำให้บวมเข้าไปใหญ่ หลักการพันที่ถูกต้องคือต้องกระชับ ไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป โดยหลักปฏิบัติเมื่อเกิดการบาดเจ็บที่แนะนำคือ PRICE
- P = Protection หรือการป้องกัน หากเกิดการบาดเจ็บควรหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่ก่อน ไม่ให้มีการบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น
- R = Rest หรือการพัก
- I = Ice หรือการประคบเย็น ประคบน้ำแข็ง 10-15 นาที ทุก 6 ชั่วโมง
- C = Compression หรือการพันผ้า บริเวณที่บาดเจ็บเพื่อลดการเคลื่อนไหว
- E = Elevation หรือการยกปลายเท้าให้สูงขึ้น เพื่อลดอาการบวม
แค่ข้อเท้าพลิก อาจแย่กว่าที่คิดจริงหรือ?
บางครั้ง ข้อเท้าพลิก อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรง เอ็นขาดทั้งหมด กระดูกร้าว กระดูกหัก ตามที่กล่าวไปแล้ว นอกจากนี้ ยังอาจทำให้กระดูกอ่อนในข้อเท้าเกิดการบาดเจ็บหรือเป็นแผลที่กระดูกอ่อนได้ พอมีการบาดเจ็บในกระดูกอ่อน ก็อาจทำให้กระดูกอ่อนสึก
วิธีสังเกต ว่าข้อเท้าพลิกที่เจอ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ได้แก่
- ตอนข้อเท้าพลิก ได้ยินเสียงดัง ป๊อป
- มีอาการเจ็บรุนแรงจนกลับไปทำกิจกรรมต่อไม่ได้
- เดินลงน้ำหนักไม่ได้
- ปวด และข้อเท้าบวมมาก
อาการเหล่านี้อาจหมายถึงมีเอ็นฉีกเยอะมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการ แพทย์อาจแนะนำให้ใส่เฝือกอ่อนแล้วรอดูประมาณ 2 สัปดาห์ หากอาการไม่ดีขึ้น ยังขยับลำบาก ต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจ MRI เพื่อดูว่าบริเวณที่บาดเจ็บอยู่ในเฉพาะบริเวณเอ็นข้อเท้าหรือไม่ หรือบาดเจ็บลามขึ้นไปสูงกว่านั้น
กรณีที่มีการบาดเจ็บที่กระดูกอ่อน อาจจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงและดุลยพินิจของแพทย์ผู้ชำนาญการ
ปล่อยเรื้อรัง ไม่ดีแน่
ปัจจัยที่ทำให้อาการข้อเท้าพลิกธรรมดากลายเป็นอาการมากกว่าปกติ ผิดปกติ ส่วนใหญ่มาจากการรักษาที่ไม่เหมาะสม หรือปล่อยทิ้งไว้เรื้อรัง เช่น หากข้อเท้าพลิกแล้วรักษาไม่ดี ไม่ได้รับการทำกายภาพที่ถูกต้อง พันข้อเท้าอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะข้อเท้าหลวม ที่เอ็นสมานกันหลังบาดเจ็บแต่เป็นการสมานในลักษณะที่เอ็นหย่อน
อธิบายง่าย ๆ คือ เมื่อมีความเสียหายของเส้นเอ็น เส้นเอ็นจะใช้เวลาในการสมานตัวเองประมาณ 4-6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระดับของการบาดเจ็บ แล้วถ้าช่วงแรกข้อเท้าไม่ได้รับการพันหรือล็อกให้อยู่ในลักษณะที่เหมาะสม แต่กลับขยับเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้การสมานของเส้นเอ็นทำได้ไม่ดี เส้นเอ็นหย่อน และเกิดข้อเท้าหลวมตามมาได้ แล้วถ้าข้อเท้าพลิกบ่อย ๆ เกิดความเสียหาย อักเสบบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ก็ลามมาเป็นพังผืดในข้อเท้าได้อีกด้วย
ยิ่งในกรณีที่มีการบาดเจ็บไปถึงกระดูกอ่อน หากปล่อยไปเรื่อย ๆ จะเกิดการอักเสบ พอกระดูกอ่อนสึกมากขึ้น มีอาการปวดบวม และหากเกิดข้อเท้าหลวมเป็นเวลานาน ๆ อาจส่งผลให้ข้อเท้าผิดรูป และเกิดข้อเท้าเสื่อมตามมาได้
เมื่อเกิดข้อเท้าพลิกที่รุนแรง ทางการแพทย์ช่วยอย่างไรได้บ้าง?
เมื่อเกิดข้อเท้าพลิก บาดเจ็บ ควรมาพบแพทย์ก่อนในเบื้องต้น เพื่อให้แพทย์ประเมินระดับความรุนแรง พิจารณาใส่เฝือก ใส่เฝือกอ่อน หรือสวมรองเท้าบูต พอพ้นช่วงอักเสบ ก็สามารถทำกายภาพ บริหารเส้นเอ็นรวมถึงเส้นประสาทการรับรู้ที่ข้อเท้า วิธีเหล่านี้ช่วยให้กลับมาเป็นปกติได้
กรณีเป็นมาก ๆ ระดับความรุนแรงมาก หรือมีภาวะข้อเท้าหลวม ควรรีบมารักษา ซึ่งในปัจจุบันสามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง ซึ่งแพทย์จะทำการเปิดแผลเล็ก ๆ แล้วเย็บเส้นเอ็นที่หลวมให้กลับมาตึงเหมือนเดิม ในบางรายที่มีพังผืด แพทย์สามารถส่องกล้องเพื่อรักษาไปพร้อม ๆ กันได้
หากมีกระดูกอ่อนสึกไปแล้ว แพทย์จะซ่อมโดยการผ่าตัดส่องกล้องเช่นเดียวกัน และหากข้อเท้าพลิกจนเกิดปัญหาข้อเท้าผิดรูป แพทย์ก็ต้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมปรับแนวกระดูกให้อยู่ในลักษณะที่เหมาะสม
ดังนั้น ถ้าไม่อยากผ่าตัด ก็ต้องดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด