พอคนไข้มองเห็นชัด มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุข ก็ทำให้เรามีพลังรักษาต่อ
“SMILE® Pro ตอบโจทย์ทั้งหมอและคนไข้ แม่นยำ ปลอดภัย ช่วยลดความกลัวของคนไข้ได้อย่างดี”
สายตาสั้น ทำเลสิกที่ไหนดี ทำเลเซอร์แก้ไขสายตา ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง คำถามที่หลายคนอยากรู้ วันนี้เราอยู่ที่ MedPark SMILE® Pro Center ศูนย์เลเซอร์แก้ไขสายตา โรงพยาบาลเมดพาร์ค และมีโอกาสได้พบ คุณหมอเมย์ - แพทย์หญิงสุภาวดี เอื้อจงมานี จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตา ที่จะมาให้คำตอบเรื่องเลสิกกัน หากพูดถึงประสบการณ์บนเส้นทางการเป็น “หมอกระจกตา” ของ พญ. สุภาวดี นั้น เรียกว่ายาวนานเกือบ 20 ปีเลยทีเดียว
“หมอเลือกเรียนต่อยอดทางด้านกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตา ที่จุฬาฯ เป็นรุ่นที่ 2 ค่ะ สมัยนั้นมีหมอกระจกตาน้อย หมอเลือกเรียนเพราะรู้สึกท้าทายดี เพราะกระจกตามีหลายชั้น แต่ละชั้นก็มีโรคที่ต้องค้นหาให้เจอ ต้องอาศัยความละเอียดมาก การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาเมื่อก่อนต้องเย็บทั้งหมด 16 เข็ม ใช้มือเย็บทุกเส้น ต้องเย็บให้สวย ตึงเท่ากันทุกเส้น เหมือนงานศิลปะ ถ้าเย็บตึงไปก็จะทำให้สายตาเอียงได้”
หลังจากเรียนต่อเฉพาะทางจบ คุณหมอได้เริ่มทำงานที่ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ควบคู่กับเป็นอาจารย์พิเศษสอนที่จุฬาฯ และยังเป็นอนุกรรมการฝ่ายวิชาการ ศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย คอยให้ความรู้เรื่องการบริจาคกระจกตา แก่เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ดวงตาภาคต่าง ๆ
“ลูกตาของคนเรา มีเพียงส่วนเดียวที่เปลี่ยนใหม่ได้ นั่นก็คือ กระจกตา หากเราบริจาคกระจกตาไป 1 ข้าง สามารถนำกระจกตาไปเปลี่ยนให้กับคนที่ตาบอด หรือมีปัญหากระจกตาพิการได้มากถึง 4 คนเลยนะ การทำให้เขากลับมามองเห็น มองชัดได้อีกครั้ง จึงเท่ากับเป็นการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งเลยค่ะ”
PRK, Femto LASIK, ReLEx SMILE สู่เทคโนโลยี SMILE® Pro
การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา ทำให้คนไข้กระจกตาพิการที่มองไม่เห็น กลับมามองเห็นได้ดีขึ้น แต่สำหรับคนที่ตามองเห็นอยู่แล้ว แต่มองไม่ชัด เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียงโดยกําเนิด หรือใส่แว่นมานาน ก็สามารถใช้เทคโนโลยีมาผ่าตัดแก้ไข ปรับแต่งความโค้งของกระจกตา เพื่อให้มองภาพคมชัดได้เช่นกัน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่คุณหมอสนใจ และพยายามเรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ อยู่เสมอ
“การผ่าตัดแก้ไขสายตา มีมานานเกิน 30 ปีแล้วค่ะ เริ่มจาก PRK, เลสิกใบมีด แล้วมาเป็นแบบไร้ใบมีดหรือที่เรียกว่า Femto LASIK ต่อมาก็ได้นำเลเซอร์มาใช้ในทุกขั้นตอนของการผ่าตัด เรียกว่า ReLEx SMILE และล่าสุด เมดพาร์คก็ได้นำ SMILE® pro เข้ามาใช้ ซึ่งตอบโจทย์ทั้งหมอและคนไข้ มีความแม่นยำ ปลอดภัย และช่วยลดความกลัวของคนไข้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ”
ศูนย์เลเซอร์แก้ไขสายตาของเมดพาร์ค ได้นำเทคโนโลยี สมายล์ โปร (SMILE® pro) เข้ามาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากทำเลสิก โดยเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อจาก ReLEx SMILE มีความปลอดภัยสูง และรวดเร็ว สามารถทําการเลเซอร์โดยใช้เวลาเพียง 8-10 วินาที ทำให้คนไข้ให้ความร่วมมือได้ง่ายขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
เลสิก ความเข้าใจผิด ที่หลายคนไม่รู้
การทำเลสิค ไม่ใช่ว่าเดินเข้ามาพบแพทย์แล้วจะทำได้เลย จักษุแพทย์ต้องทำการซักประวัติ ตรวจตา วัดค่าสายตา ค่าความหนาของกระจกตาอย่างละเอียด เพื่อประเมินว่า เหมาะสมที่จะทำหรือไม่ อย่างไร
“หมอจะแนะนำคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยต้องมีคุณสมบัติสำคัญคือ ค่าสายตาคงที่ เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 50 หรือ -0.50 D ภายใน 1 ปีที่ผ่านมา บางคนเชื่อว่า ค่าสายตาเท่าไหร่ก็ทำเลสิคได้ แต่อันที่จริง ต่อให้สายตาสั้นไม่มาก แต่ถ้ากระจกตาบาง หลังทำเลสิกก็มีโอกาสเกิดโรคกระจกตาโก่ง ซึ่งทําให้ค่าสายตาผิดเพี้ยนไปเรื่อย ๆ สุดท้ายต้องแก้ไขโดยผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา”
“และในคนไข้โรคต้อหิน หมอไม่แนะนำเพราะจะมีขั้นตอนที่ต้องวางอุปกรณ์ Suction บนกระจกตา เพื่อแยกชั้นกระจกตา หรือสร้างชั้น Lenticule ในกระจกตา ซึ่งอาจเพิ่มความดันตา ซึ่งป็นเรื่องที่ต้องระวังอย่างมากในคนไข้ต้อหินค่ะ”
คุณหมอยังกล่าวเสริมอีกว่า การทำเลสิกไม่ช่วยหยุดสายตาสั้นอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะเป็นเพียงการแก้ไขค่าสายตาปัจจุบันให้เป็นปกติ แต่ไม่ได้ทําเพื่อป้องกันการเกิดสายตาสั้นในอนาคต
เลสิก ที่ไหนดี ทำไมต้องทำ SMILE® Pro
MedPark SMILE® Pro Center มีความพร้อมให้บริการผ่าตัดรักษาภาวะสายตาผิดปกติ โดยใช้เทคโนโลยี SMILE® Pro ด้วยเครื่อง VISUMAX 800 ของบริษัท Carl Zeiss Meditec จากประเทศเยอรมนี ซึ่งพัฒนาต่อจาก ReLEx SMILE (Refractive Lenticule Extraction / Small Incision Lenticule Extraction) จุดเด่นคือ ใช้เวลายิงเลเซอร์ 8-10 วินาทีเท่านั้น เร็วกว่ารุ่นเดิม 3 เท่า
“เราใช้แสงเลเซอร์ชนิด Femtosecond Laser แบบใหม่ของเครื่อง VISUMAX 800 ซึ่งมีพลังงานพัลส์ต่ำแต่ความถี่สูงกว่ารุ่นเดิม แยกชั้นเนื้อเยื่อส่วนกลางของกระจกตา เป็น Lenticule ที่มีลักษณะเป็นแผ่นกลมบางแล้วเปิดแผลด้านข้างเล็ก 2-4 มม. หลังจากนั้นค่อยดึง Lenticule ออกมา เนื่องจากขนาดแผลที่เล็ก จึงสมานติดกันเร็ว ฟื้นตัวเร็ว ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนขณะผ่าตัดและหลังผ่าตัด แตกต่างจากการทำ LASIK ทั่วไปที่ต้องผ่าเปิดฝากระจกตา”
นอกจากมีความพร้อมในเครื่องมือตรวจวินิจฉัยและรักษาแล้ว ยังมีทีมแพทย์และบุคลากรชำนาญการเฉพาะทางหลากหลายสาขา โดยเฉพาะหมอกระจกตาที่มีถึง 8 ท่านด้วยกัน
“ปัจจุบันเรามีอาจารย์แพทย์เฉพาะทางครบทุกสาขา ที่ประจำอยู่ในศูนย์ฯ เช่น หมอต้อกระจก หมอต้อหิน หมอจอประสาทตา หมอกล้ามเนื้อตา หมอจักษุประสาทวิทยา หมอจักษุตกแต่ง และอื่น ๆ ที่พร้อมให้คำปรึกษาเคสยากซับซ้อน ที่นี่เป็น Eye Care Center เราดูแลอย่างครอบคลุมค่ะ บางคนมาทำเลสิก แต่ตรวจเจอรูที่จอประสาทตา เราก็จะส่งไปเลเซอร์จอประสาทตาก่อน หรือบางคนต้องแก้ไขกล้ามเนื้อตา เพื่อไม่ให้เห็นภาพซ้อนก่อน ดังนั้น คนไข้จะได้รับการรักษาอย่างถูกจุด และรวดเร็วแน่นอน”
ทำเลสิก เตรียมตัวดี ก็มีโอกาสมองเห็นชัดเร็วขึ้น
สำหรับคนที่อยากทำเลเซอร์แก้ไขสายตา คุณหมอแนะนำว่าให้ใจเย็น ๆ และเตรียมตัวให้ดีก่อนมาตรวจสภาพตา
“ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ล่วงหน้า 5-7 วันค่ะ ส่วนคอนแทคเลนส์แบบกึ่งนิ่มกึ่งแข็ง ต้องงด 3 สัปดาห์หรืออาจเป็นเดือน เพราะการใส่คอนแทคเลนส์จะไปกดความโค้งกระจกตา จึงต้องรอให้คืนตัวกลับมาเพื่อจะได้ค่าสายตาที่แท้จริงค่ะ ส่วนยากลุ่มแก้สิว เช่น Roaccutane หรือ Acnotin ก็ควรงดก่อนมาตรวจสภาพตาหรือก่อนผ่าตัด 1 เดือน เพราะยากลุ่มนี้ทําให้ตาแห้งมาก”
สิ่งสำคัญที่คุณหมอเน้นย้ำคือ ให้พาญาติมาด้วย และไม่ควรขับรถเอง เพราะหมอจะตรวจตาอย่างละเอียด มีการหยอดยาขยายม่านตา ซึ่งส่งผลให้ตามัวประมาณ 4-6 ชั่วโมง ถ้าจะให้ดีควรเตรียมแว่นกันแดดมาด้วย และข้อสุดท้ายคือ ต้องไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพราะฮอร์โมนในร่างกายจะมีผลต่อค่าสายตาที่วัดได้
เลสิก รู้แบบนี้ทําตั้งนานแล้ว
คุณหมอเล่าประสบการณ์ประทับใจ จากการรักษาคนไข้ที่มีปัญหาสายตาผิดปกติ
“คนไข้สายตาสั้นข้างเดียวแล้วตาเขด้วย ทำเลเซอร์ผ่านไป 6 เดือน ตาไม่เขแล้ว เขาบอกว่า หมอคะ..หนูจะได้แต่งงานแล้วนะคะ หมอฟังแล้วชื่นใจมากค่ะ อีกเคสนึง คนไข้ต่างชาติสายตาสั้นเกิน 1,500 หมอก็แนะนําให้ทําเลนส์เสริม พอทําเสร็จเขาดีใจมาก แล้วก็ขออนุญาตขอบคุณ จู่ ๆ เขาก็ก้มลงไปกราบหมอ 3 ครั้งเลย ตกใจค่ะ ไม่ทันตั้งตัว แต่อาจจะเป็นวัฒนธรรมของเขา พอคนไข้มองเห็นชัด มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุข ก็ทำให้เรามีพลังรักษาคนไข้ต่อค่ะ”
ไม่เพียงอยู่เบื้องหลังแววตาที่เต็มไปด้วยความสุขของคนไข้เท่านั้น คุณหมอยังเป็นแรงใจสนับสนุนครอบครัวในทุก ๆ ด้าน
“พอถอดชุดกาวน์ออกก็ทำอาชีพแม่ต่อค่ะ ซึ่งเป็นอาชีพที่ลาออกไม่ได้ หมอมีลูกชายสองคนกำลังอยู่ในวัยเรียน เขาสนใจคณิตศาสตร์มาก และมีโอกาสไปแข่งขันทางคณิตศาสตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หมอเลยต้องแบ่งเวลาดูแลคนไข้ แล้วก็มาซัพพอร์ตลูกชายให้เขาทำสิ่งที่เขาชอบ เหนื่อยแต่ก็มีความสุขค่ะ”
